@ศึก วัน แชมเปี้ยนชิพ ภายใต้ชื่อ ONE : DAWN OF HEROES ที่จะมีขึ้น ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ นั้นเรียกได้ว่าเดือดรับต้นเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ด้วยคู่ชิงแชมป์สุดร้อนแรงของสองนักชกหนุ่มสุดฮอตแห่งภาคพื้นยุโรปปะทะเอเชีย ระหว่างแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต คนปัจจุบัน “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” ที่เพิ่งกระชากเข็มขัดจาก “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” ไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กับนักชกหนุ่มจากแดนพัทลุงที่เป็นจอมบ้าพลังอย่าง “รถถัง จิตรเมืองนนท์”
หลังสยบเจ้าตำนานมวยไทยอย่าง สามเอ ได้ก็ยิ่งทำให้นักชกหนุ่มจากลอนดอนมั่นใจในฝีมือตัวเองขึ้นเป็นทวีคูณ ถึงกับเรียกหา รถถัง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักชกสุดแกร่งของสังเวียน ONE ในทันทีหลังได้ครองเข็มขัดแชมป์
“เขาคือรถถังสมชื่อ ในสายตาผมเขาเป็นคู่แข่งขันที่เพอร์เฟกต์ที่สุดในตอนนี้ ผมตามดูเขาและอยากดวลฝีมือกับเขามานาน ผมไม่ได้ต้องการทำให้เขาเสียเครดิต แต่ผมคิดว่าเขาเป็นมวยที่มีมิติเดียว ในขณะที่ สามเอ มีหลักเหลี่ยมกว่าซึ่งทำให้ผมต้องใช้ความคิดเยอะกว่า”
“รถถังเป็นมวยเดินบดขยี้และมีพลังหมัดที่หนัก ถ้าเขาคิดว่าจะมายืนอยู่กลางเวที ทุบอกแล้วท้าทายคู่ชกให้ออกมาสู้กัน คราวนี้มันไม่เหมือนอย่างที่เขาเคยเจอแน่”
ก่อนหน้านี้ในไฟต์ที่ รถถัง ขึ้นสังเวียนกับนักชกหนุ่มจากกัมพูชา “ซก ที” (หรือที่แฟนมวยชาวไทยคุ้นชื่อในนาม “กาก้า แปะมีนบุรี”) เขาโชว์ลีลาการเจาะยาง จนอวสานการแข่งขันแบบไม่ครบยก แต่ถึงอย่างนั้น แฮ็กเกอร์ตี้ กลับไม่รู้สึกตระหนกตกใจหรือสะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“เขาเตะเจาะยางถี่มากในไฟต์นั้น แต่มันจะเกิดขึ้นกับคู่แข่งขันที่ป้องกันไม่เป็น ถ้าเขาเจอผมบล็อกเพียงไม่กี่ครั้ง เขาจะไม่อยากเตะขาล่างอีกแน่นอน”
แฮ็กเกอร์ตี้ มั่นใจอย่างสูงว่าอาวุธมวยไทยที่มีอยู่อย่างครบมือจะสามารถจัดการกับ รถถัง ได้อย่างที่เคยสยบเจ้าตำนานอย่าง สามเอ มาแล้ว แต่ รถถัง ที่หนุ่มแน่นกว่าถึง 14 ปี อายุรุ่นราวคราวเดียวกับ แฮ็กเกอร์ตี้ เขาถึงได้บอกว่านักชกชาวพัทลุงคือคู่แข่งขันที่สมน้ำสมเนื้อกับเขามากที่สุด
“ผมจัดการ รถถัง ในความคิดเรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ความเชื่อมั่นว่าผมจะชนะในไฟต์นี้ ใครก็ตามที่ต้องการเข็มขัดเส้นนี้ ก็มาท้าชิงกับผมได้ แต่ผมมั่นใจว่าเข็มขัดเส้นนี้จะอยู่กับผมไปอีกนาน”
ด้าน “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ที่ฝากผลงานชนะรวด 4 ไฟต์ติดต่อกันบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ สมควรแล้วที่เขาจะได้ก้าวขึ้นเป็นคู่เอกของรายการเพื่อชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ในครั้งนี้
“ผมดีใจมากครับ แต่ก็รู้สึกกดดันเหมือนกันในการเป็นคู่เอกของรายการ เพราะมีคนคาดหวังกับผมเยอะ แต่มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องทำให้ดีที่สุดและทำให้ผู้ชมสนุก ผมต้องการแสดงความสามารถของผมอย่างเต็มที่ในด้านมวยไทย”
สำหรับ แฮ็กเกอร์ตี้ ถือว่าเป็นนักมวยต่างชาติที่มีพรสวรรค์ด้านมวยไทยชนิดหาตัวจับยากคนหนึ่ง แต่หากเทียบประสบการณ์กับ รถถัง ซึ่งมีสถิติการชกมวยอาชีพกว่า 300 ไฟต์ ในขณะที่นักชกหนุ่มชาวอังกฤษผ่านการแข่งขันมวยไทยระดับอาชีพมาเพียง 16 ไฟต์ จึงนับว่ามีความแตกต่างกันอยู่มาก
ถึงแม้ แฮ็กเกอร์ตี้ บอกว่าสถิติเป็นเพียง “ตัวเลข” ไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขา แต่ รถถัง กลับมองว่าด้วยประสบการณ์บนสังเวียนที่สูงกว่า ย่อมทำให้เขามีความได้เปรียบอย่างชัดเจน
“ผมคิดว่าเขารับมือไม่ไหวแน่นอน ถ้าโดนขึ้นมาจริงๆ เขาเก็บอาการไม่อยู่ และไม่ชอบโดนต่อยที่ลำตัว สังเกตได้จากตอนที่เขาโดน สามเอ เล่นงานในยก 4 ผมรู้ว่าจะเล่นงานเขายังไงแต่ผมก็จะไม่ประมาท ผมต้องเดินเกมด้วยความระมัดระวัง และควบคุมเกมให้ได้”
“แน่นอนว่าเขาตัวใหญ่กว่าผม ช่วงแขนช่วงขาเขายาวกว่า และเขารู้จักใช้อาวุธมวยทุกรูปแบบทั้งศอก เตะ ผมต้องพยายามชิงออกอาวุธให้ได้ก่อน เพราะกับนวม 4 ออนซ์อะไรก็เกิดขึ้นได้”
เมื่อเข็มขัดแชมป์โลก ONE มาอยู่ตรงหน้าแล้ว รถถังย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ เขาทุ่มสุดตัวและหัวใจเพื่อไฟต์นี้และซ้อมหนักกว่าทุกไฟต์ที่ผ่านมาในชีวิต เขาจะนำอาวุธทุกอย่างที่มีประเคนใส่คู่แข่งขันบนสังเวียน
“เข็มขัดแชมป์โลกของ ONE เป็นสิ่งที่นักสู้ทุกคนปรารถนา เพราะนี่คือเวทีระดับโลก มีคนดูทั่วโลก ชัยชนะครั้งนี้จะนำมาซึ่งชื่อเสียง และที่สำคัญคือความภาคภูมิใจของครอบครัว พ่อแม่ผมจะต้องดีใจมาก และนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผมตอนนี้”
สำหรับการแข่งขันในไฟต์นี้จะใช้กติกามวยไทย 5 ยก ชกกันในรุ่นฟลายเวต (น้ำหนัก 61.2 กิโลกรัม) สวมนวมแบบศิลปะการต่อสู้ผสมผสาน 4 ออนซ์ จัดขึ้นภายใต้ชื่อศึก ONE: DAWN OF HEROES ในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ถ่ายทอดสดทาง ONE Super App ตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป และทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
@ บทความข่าวโดย :: Sitthiporn Longwichian
@ credit news –image : : foxspor .co.th
