“เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันทน์ เป็นคนรักมวยมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเคยหนีเรียนไปซ้อมมวย และเคยขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่นรวมถึงมวยสากลอาชีพ สถิติชนะรวด 5 ครั้ง แต่ความฝันทั้งหมดก็ดับลง เพราะพ่อของเสี่ยไม่อยากให้ลูกชายเจ็บตัว เนื่องจากที่บ้านทำธุรกิจโรงภาพยนตร์อยู่แล้ว เหตุใดต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง ถึงขั้นยื่นคำขาดว่าถ้าไปต่อยมวยอีกจะตัดพ่อตัดลูก คำนี้คงทำให้แกเจ็บอยู่ลึกๆ เสี่ยจึงจำต้องเลิกต่อยมวย ต่อมาเมื่อมีลูกจึงผลักดันให้ลูกต่อยมวยสากลสมัครเล่น และเมื่อทุกอย่างลงตัวก็หันมาตั้งค่ายมวยของตนเอง

 

 

 เสี่ยเคยให้สัมภาษณ์ว่าตนเองรักนักมวยเหมือนลูก รักมากกว่าลูกด้วยซ้ำ เพราะถ้านักมวยป่วย เขาจะขับรถไปพาไปหาหมอ แต่ถ้าลูกตัวเองป่วย จะให้ไปหาหมอเอง

 

 ไฟต์ล่าสุดที่ศรีสะเกษเสียแชมป์ หลังจากระฆังยกสุดท้ายดึงขึ้น เสี่ยฮุยในวัยใกล้ 70 ปีพุ่งขึ้นเวทีแบกศรีสะเกษขึ้นขี่คอ ในใจเสี่ยคงพอรู้ว่าพี่แหลมจะต้องแพ้คะแนน แต่ก็ยังไม่ยอมให้ “ลูกชาย” คนนี้น้อยหน้าใคร ชูมือเพื่อแสดงความมั่นใจด้วยใบหน้าปูดบวม

 

 

 วินาทีประกาศคะแนน คนที่เจ็บไม่แพ้พี่แหลมก็คงเป็นเสี่ยฮุย ผู้ปลุกปั้นและล่อเป้าให้พี่แหลมด้วยตนเองทุกเช้ามาตลอด 4 เดือน

 

 คณะอดีตแชมป์โลกเหยียบแผ่นดินไทยหลังพ่ายแพ้เสียแชมป์ เสี่ยฮุยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมในฐานะหัวหน้าผู้ดูแลเปรียบเสมือนแม่ทัพออกศึก จึงขอน้อมรับความผิดพลาดทั้งมวลแต่เพียงผู้เดียว”

 

 “ศรีสะเกษเป็นหนึ่งเดียวกับครอบครัว ระหว่างให้น้ำผมพูดตลอด ฮึดสู้นะลูก อีกยกเดียวนะลูก ศรีสะเกษเป็นนักสู้ใจเพชร ไม่มีคำว่าท้อ เขาเป็นนักมวยมีวินัย ขยันซ้อม อยากบอกว่าอย่าเพิ่งท้อ จะต้องกลับมาเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 3 ให้จงได้” 


.
.
เรียบเรียง : เกร็ดมวยสากล

 


ภาพ workpoint, BEC-TERO ENTERTAINMENT, siamsport

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments