<<>> บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด มหาชน จัดงานประกาศรางวัลเชิดชูเกียรติยศคนกีฬา สยามกีฬาอวอร์ดส์ ครั้งที่ 13 ที่โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์ คอมเพล็ก ซ.รางน้ำ กรุงเทพฯ เมื่อ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา สำหรับงานประกาศรางวัลในปีนี้ ได้รับเกียรติจากบุคคลในวงการกีฬา นักกีฬา และผู้แทนจากสมาคมกีฬาต่างๆ เดินทางมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง นำโดย นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการกกท.ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการกกท.ฝ่ายส่งเสริมกีฬา
นอกจากนี้ผู้บริหาร บ.สยามสปอร์ตฯ อาทิ วิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร, วรรคสร โหลทอง รองประธานกรรมการ และรองประธานกรรมการบริหาร, ดร.สรายุทธ มหวลีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ และ โอฬาร เชื้อบาง รองกรรมการผู้จัดการ ยังให้เกียรติร่วมงานและต้อนรับแขกผู้เกียรติในงานประกาศรางวัลด้วย
สำหรับรางวัล สยามกีฬา อวอร์ดส์ ครั้งที่ 13 ในปีนี้ ประกอบด้วย รางวัลแห่งเกียรติยศ เอ็มวีพี จำนวน 3 รางวัล ซึ่งในรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมชาย ผู้คว้ารางวัลในปีนี้ไปครอง ได้แก่ พรชัย เค้าแก้ว นักกีฬาเซปักตะกร้อ รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 100,000 บาท ขณะที่รองชนะเลิศ ตกเป็นของ จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักกีฬาจักรยานเจ้าของเหรียญทองจักรยานประเภทลู่ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 และ ขุนตาล พวงเพชร นักกีฬาเพาะกาย เจ้าของแชมป์โลกปีล่าสุด
ส่วนรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นยอดเยี่ยมหญิง ได้แก่ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโด เหรียญทอง กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศ ได้แก่ สุริยา จิวเฉลิมมิตร นักกีฬายิงปืนเจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 และ นันท์ภัส ภุชณงค์ นักกีฬาทางอากาศดีกรี 2 ทอง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18
ด้านรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยม เนื่องจากในปีนี้มีนักกีฬาที่ทำผลงานโด่ดเด่นทั้งชายและหญิง คณะกรรมการจึงพิจารณาให้แยกรางวัลเป็นรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมชาย และรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมหญิง ซึ่งรางวัลนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมหญิงปีนี้ ตกเป็นของ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกีฬากอล์ฟ รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วนรัชนก อินทนนท์ นักกีฬาแบดมินตัน และ ลักษิกา คำขำ นักกีฬาเทนนิส คว้าตำแหน่งรองชนะเลิศ
ขณะเดียวกันนักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมชาย ได้แก่ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 100,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศเป็นของ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักกีฬาฟุตบอล และ กิรเดช อภิบาลรัตน์ นักกีฬากอล์ฟ
ส่วนรางวัลยอดเยี่ยมอีก 6 รางวัล ประกอบด้วย นักกีฬาดาวรุ่งยอดเยี่ยม ได้แก่ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตัน รับเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วน อธิชัย เพิ่มทรัพย์ นักกีฬามวยสากล กับ “น้องมิ้ว” ด.ญ.วรรญา วรรณผ่อง นักกีฬาบังคับโดรน เจ้าของแชมป์โลก ได้รองชนะเลิศ
รางวัลผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยม เป็นของ เซ ยอง ซอก ผู้ฝึกสอนเทควันโด รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วน หนึ่งฤทัย สระทองเวียน ผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิง และโชคชัย พิสิฐวุฒินันท์ ผู้ฝึกสอนศรีษะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ได้รองชนะเลิศ
สมาคมกีฬายอดเยี่ยม ในปีนี้ได้แก่ สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 50,000 บาท ด้านรางวัลนักกีฬามวยไทยอาชีพยอดเยี่ยม ได้แก่ ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศเป็นของ ก้าวหน้า พี เค แสนชัยมวยไทยยิม และ รุ่งกิจ หมอเบสกมลา
.jpg)
รางวัลนักกีฬาคนพิการยอดเยี่ยม ได้แก่ พงศกร แปยอ นักกีฬาวีลแชร์แรซซิ่ง รับถ้วยรางวัล และเงินรางวัล 50,000 บาท ส่วนรองชนะเลิศเป็นของ สุจิรัตน์ ปุกคำ แบดมินตัน และ อังคาร ชนะบุญ กรีฑาประเภทกระโดดสูง
ส่วนรางวัลเกียรติยศเพื่อเชิดชูให้กับอดีตนักกีฬาทีมชาติไทยที่เคยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย หรือ เค แบงค์ ฮอล ออฟ เฟรม รางวัลหอเกียรติยศคนกีฬาซึ่งปีนี้มี 8 บุคคลกีฬา ถูกประกาศชื่อเข้ารับรางวัลประกอบด้วย สามารถ ศรแดง ” เชน” มวยไทย, พันธ์ทิพย์ แก้วสุริยะ (มวยสากล), วิชัย แสงธรรมกิจจกุล ฟุตบอล, ชัชชัย พหลแพทย์ (ฟุตบอล), สุรัตน์ ณ เชียงใหม่ (เซปักตะกร้อ), สะอาด ปัญญาวัน (วินเซิร์ฟ), พล.ต.ต.จักร จักษุรักษ์ (รักบี้ฟุตบอล), จิระ ประพันธะโยธิน (ยิงปืน) รับถาดรางวัลที่สลักผลงานเด่นในอดีต พร้อมเงินรางวัลคนละ 50,000 บาท
ด้านรางวัลเมอร์ริท อวอร์ด หรือบุคคลทรงคุณค่า ที่ปีนี้ มอบให้แก่ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสเลสเตอร์ และผู้ก่อตั้งสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย เพื่อให้คนไทยร่วมรำลึกถึงคุณงามความของ “เสี่ยวิชัย” ที่ทำให้แก่วงการกีฬาไทย รวมถึงการสนับสนุนสร้างโอกาสแก่เยาวชนที่รักและชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลได้ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ
.jpg)
