“โค้ชแซม”กามนิตย์ นารีรักษ์ ที่หวนกลับมาคุมนักชกทีมชาติไทยอีกครั้ง ในฐานะสต๊าฟโค้ชทีมมวยสากลทีมชาติไทย หลังจากก่อนหน้านี้ไปรับหน้าที่ไปเป็นโค้ชให้ทีมมวยสากลของประเทศเวียดนาม เป็นระยะเวลา 4 ปี  เปิดเผยว่าได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ของสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย และ นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ให้มารับงานสต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย โดยสมาคมฯ ทำหนังสือขอตัวผ่านทางกองทัพบก ต้นสังกัด จึงตัดสินใจทันทีรับงานนี้เพราะอยากกลับมาอยู่มืองไทยอยู่แล้ว ยิ่งมาทำงานกับ ฮวน ฟอนตาเนียล ที่เคยร่วมงานกันมาด้วย ทำให้ไม่ต้องคิดมากเลย ตนไปอยู่เวียดนาม 4 ปี ได้ประสบการณ์มากมาย จะนำเอาความรู้มาถ่ายทอดให้นักมวยทีมชาติไทย..

ตอนนี้ก็เปลี่ยนรูปแบบการฝึกซ้อมหลายอย่างตามที่ฟอนตาเนียลได้ทำไว้ เช่น ก่อนหน้านี้ นักมวยไม่สามารถดื่มน้ำได้ขณะฝึกซ้อม ตอนนี้ก็อนุญาตให้ดื่มได้ ส่วนเรื่องการรับประทานอาหาร  ในยุคของ เซเดโย่ นักมวยรับประทานอาหารก่อนแล้วค่อยซ้อม แต่สำหรับยุคนี้  ปล่อยนักมวยไปทำการฝึกซ้อมก่อนแล้วค่อยกลับมากิน ภาพรวม ที่ผ่านมา 1 สัปดาห์ นักกีฬาปรับตัวกับการฝึกซ้อมและทำได้ดี ทุกคนแฮปปี้ บรรยาการภายในแคมป์เป็นไปอย่างยอดเยี่ยม

   นอกจากนั้น “โค้ชแซม” เผยอีกว่า ฟอนตาเนียล ให้นโยบายหลักคือ นักกีฬาทุกคนต้องมีระเบียบวินัย และขยันฝึกซ้อม ไม่มีเด็กเส้นสำหรับนักมวยชุดนี้ สิ่งที่ต้องเน้นคือเรื่องระเบียบวินัยเป็นหลัก  ไม่ว่าจะดาวรุ่งหรือตัวเก๋า หากไม่ตั้งใจฝึกซ้อมก็จะโดนทำโทษและหลุดจากชุดใหญ่หรือชุด A ไปอยู่ชุด Cได้ แต่ถ้านักมวยคนใดที่ทำผลงานเข้าตาและตั้งใจฝึกซ้อมก็สามารถเลื่อน ขึ้นมาอยุ่ชุดA ได้เช่นกัน

   โดยจะมีการตัดเกรดนักมวย หลังจากไปแข่งขันที่อินเดีย และ ฮังการี ช่วง ก.พ.นี้ เป็นชุด A ชุด B และชุด C มีเป้าหมายคือการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2019 ปีนี้ที่ฟิลิปปินส์ ต้องทำผลงานให้ดี รวมถึงต้องคว้าโควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่นให้ได้ ทั้งนี้ กามนิตย์ นารีรักษ์ อดีตโค้ชนักชกทีมชาติไทย เคยร่วมคุมนักชกทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองโอลิมปิกมาแล้ว คัมแบ๊กกลับมารับใช้ทีมชาติไทยอีกครั้งในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2554