ในการแถลงข่าวการกลับมาของ “คาเมดะ” ในครั้งนี้ เขาเลือกตำนานมวยโลก อย่าง “พงษ์ศักดิ์เล็ก วันจงคำ” ผู้ที่ทำให้ตนพ่ายแพ้ครั้งแรก

นักชกไทยในวัย 40 ปี และเป็นถึงอดีตแชมป์โลก WBC 2 สมัย ในุร่น Flyweight ครั้งสุดท้ายที่ชกกับ “ฟาลาโซน่า ฟิดัล” (Falazona Fidal) ในปี 2013 เป็นการชนะถึง 90 ครั้ง ตลอดอาชีพการชกมวยที่ยาวนาน ทำให้เขาเป็นนักมวยไทยคนหนึ่งที่น่าทึ่งมาก

        ชัยชนะเหนือ “มัลคอม ทูนาเกา” (Malcolm Tunacao) , หลุยส์ อัลเบอโต้ ลาซาเต้ (Luis Alberto Lazarte) , ไดซุเกะ ไนโต๊ะ (Daisuke Naito) , กิลเบอโต้ เคบ บาส (Gilberto Keb Baas) , โทโมโนบุ ชิมิซุ (Tomonobu Shimizu) , ฮุลิโอ้ ซีซ่า มิรันด้า (Julio Cesar Miranda) , สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย (Suriyan Sor Rungvisai) , ทากุยะ โคกาว่า (Takuya Kogawa) , เอ็ดการ์ โซซ่า (Edgar Sosa) และก็ “คาเมเดะ” (Kameda)

แล้วความเศร้าก็มาเยือน เมื่อ “ซอนนี่ บอย จาโร่” (Sonny Boy Jaro) และ “เรย์ มิเกรโน่” (Rey Megrino) ก็มาหยุดอาชีพการชกมวยมาอย่างยาวนาน

“คาเมดะ” ถูกจารึกชื่อว่าเป็นแชมป์โลก 3 รุ่น ได้แก่ Light Flyweight, Flyweight และ Bantamweight

ตลอดอาชีพการชกมวย เขามีข่าวในแง่ของการดูหมิ่นศาสนา และเป็นที่ถกเถียงกันอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็เป็นหนึ่งในนักชกชาวญี่ปุ่นที่โดดเด่นที่สุดในยุคของเขาและมีชัยเหนือ Juan Jose Landaeta, Daisuke Naito และ Hugo Ruiz การชกครั้งล่าสุดของเขาเกิดขึ้นในปี 2015 เมื่อเขาออกนอกบ้านไปชกกับ Kohei Kono ในรุ่น Super Flyweight เป็นการพ่ายแพ้ต่อคะแนนเพื่อนร่วมชาติ

การชกรีแมทช์ในครั้งนี้ จะชกในรุ่น Bantamweight ในวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ Korakuen Hall และมันจะเป็นการชกครั้งสุดท้ายสำหรับ “ลูกผู้ชาย”