<<>> 27 ก.พ. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลกสภามวยโลก (WBC) ซึ่งป้องกันตำแหน่งครั้งที่สอง สมัยที่สอง ด้วยการเอาชนะ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกันอย่างสวยงาม พร้อมคว้าเข็มขัด “เดอะ ริง” (The Ring) เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว โดยสายการบินอีวีเอ แอร์เที่ยวบิน บีอาร์ 211 เวลา 10.40 น.

 

28168784_10216231613288744_2630156117293369842_n

 

โดยบรรยากาศที่สนามบินมีแฟนมวยมารอรับ นักชกขวัญใจชาวไทยจำนวนมาก รวมถึง นายเจียมศักดิ์ วังเอก บิดา และ นางหนูรัตน์ วังเอก มารดา พร้อมญาติพี่น้องจากศรีสะเกษกว่า 20 คนซึ่งเดินทางจากบ้านเกิดมาโดยรถตู้ ซึ่งตำรวจภูธร อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ จัดไว้ให้ ส่วน “น้องเก๋” พัชรีวรรณ กัญหา แฟนสาวไม่ได้เดินทางมาต้อนรับเนื่องจาก ก่อนหน้านี้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์วิออส ได้รับบาดเจ็บที่ขา และสะโพกไม่สามารถเดินเหินได้โดยสะดวก
โดยนางหนูรัตน์ มาดามได้เตรียมหนูนาย่าง ปรุงด้วยกระเทียมพริกไทย ไข่มดแดง รวมทั้งแจ่วบอง และข้าวเหนียว ของโปรดของ “เจ้าแหลม” ไว้รับขวัญลูกชาย นอกจากนี้ยังมี พล.ต.อ.โกวิทย์ ภักดีภูมิ รองประธานสภามวยโลกมาให้การต้อนรับ

 

 

และทันที่ถึงเมืองไทย “เจ้าแหลม” ปรี่เข้าไปกราบเท้า นายเจียมศักดิ์ และ นางหนูรัตน์ ทันที ก่อนที่พ่อกับแม่จะหอมแก้มรับขวัญลูกชาย ท่ามกลางเสียงปรบมือต้อนรับของประชาชนชาวไทยที่มารอชม และอยู่ระหว่างสัญจรใช้บริการท่าอากาศยาน รวมทั้งการติดตามของกองทัพสื่อมวลชนแทบทุกสำนักที่บันทึกภาพกันอย่างจ้าละหวั่น ในส่วนของพิธีอย่างเป็นทางการ นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตสินค้า เอ็ม 150 ผู้สนับสนุนหลักของ “เจ้าแหลม” มอบป้ายอัดฉีดเงินสดให้ มูลค่า 1 ล้านบาทแก่แชมป์โลกขวัญใจชาวไทย นอกจากนี้ยังอัดฉีดทีมงานนครหลวงโปรโมชั่นอีก 1 ล้านบาทด้วยเช่นกัน รวมทั้งสิ้น 2 ล้านบาท

 

28279938_1993254127370456_2814293719399148703_n
ส่วน “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ โปรโมเตอร์ และ ผู้จัดการ กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจ และดีใจที่แหลมป้องกันแชมป์ได้ และการมาอยู่ที่ค่ายมา 8 ปี แหลมไม่เคยแพ้เลยตั้งแต่มาอยู่ที่ค่ายนครหลวงโปรโมชั่น มีแค่ไฟต์เดียวคือไฟต์ที่แพ้ คาร์ลอส คูเอดราส ที่แพ้อย่างน่ากังขา และยังเอาชนะ และ ย้ำแค้นโรมัน กอนซาเลซ รวมทั้งป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกครั้งที่สองกับเอสตราดา ที่ไฟต์ที่ดุเดือด 12 ยกซึ่งการฝึกซ้อม 4 เดือนเป็นการทุ่มเทอย่างสุดชีวิตที่สุด

 

 

“ที่นักชกคู่แข่งยกย่องศรีสะเกษว่าเป็นนักชกที่หมัดหนักมากนั้น ผมก็ขอยืนยันว่าหนักจริง ผมเองเป็นคนล่อเป้า เช้าผมจะเป็นคนล่อเป้า และป็อบจะเป็นฝ่ายล่อเป้าในช่วงบ่าย ซึ่งที่ผ่านมา เป้าที่ค่ายพังไปหลายใบแล้ว”
และปิดท้ายที่ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่ทำให้พี่น้องชาวไทยทุกคนมีรอยยิ้ม และมีความสุขอีกครั้งหนึ่ง การเจอกับเอสตราดา ไม่ได้สนใจว่าเขาเป็นอะไร บนเวทีตนมีหน้าที่ต่อยอย่างเดียวเท่านั้น
โดยเจ้าแหลม กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า เมื่อเล่าถึงการลดน้ำหนักอันแสนสาหัสในวันสุดท้ายก่อนชั่งน้ำหนักว่า “การควบคุมน้ำหนักที่สหรัฐค่อนข้างยาก เพราะอากาศหนาว 9 ขีดลดยากมาก วิ่ง 1 ชม.ทั้งเช้า และเย็นอีก 1 ชม. จากปกติจะวิ่งแค่ 30 นาที วันสุดท้ายวิ่งได้แค่ 40 นาที ก็ได้คุยกับเก๋ ทางโทรศัพท์และบอก “เก๋” ว่าช่วยหน่อย ลดน้ำหนักไม่ได้เลย ซึ่งแฟนสาวบอกว่า มันไม่ใช่ตัวเรา เราทำเพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทยที่เชียร์เราอยู่ ก็เลยมีกำลังใจ”

ส่วนข้อถามว่ายก 12 ซึ่งแฟนๆสงสัยว่า ทำไมถึงเลือกที่จะเดินแลกทั้งที่คะแนนน่าจะนำอยู่นั้น ศรีสะเกษ กล่าวว่า “อาจารย์ป๊อบบอกว่า เอสตราดามันต้องเดินใส่แน่ๆ ผมคิดว่าผมชนะอยู่แล้ว จะเดินก็เดิน เลือดนักสู้อยู่แล้วเลยเดินแลกก็แลก เขาโดนเขาก็หลับ ผมโดนผมก็หลับ ทั้งหมดมันอยู่ที่ใจ”

 

561000002091002

                               mgronline.com
“ส่วนไฟต์ต่อไปในพิกัดนี้ผมไม่มีปัญหาเลย กับใครก็ได้ขอให้เลือกมา ผมไม่ได้กลัวใคร พี่น้องชาวไทยเชื่อมั่นในตัวผม และให้กำลังใจผม”
ด้าน “เสี่ยฮุย”สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้จัดการส่วนตัว เปิดใจถึงกรณี ที่มีข่าวทางโลกโซเชียลทำนองเย้ยหยันจากฝั่ง เอสตราด้า ทำนองว่า ผู้แพ้นั้นหน้าตาปราศจากริ้วรอยพิษหมัด ขณะที่ผู้ชนะนั้นกลับมีใบหน้าบอบช้ำ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เสี่ยฮุยถึงกับประกาศว่า เป็นธรรมดาของการชก แต่เราได้เตรียมแก้ทางมวยไว้แล้วเป็นอย่างดี ซึ่งผลที่ออกมาแฟนๆชาวไทยคงได้เห็นแล้วว่า ใครสมควรเป็นผู้ชนะ เราไม่ได้มองแต่เพียงใบหน้าเพียงอย่างเดียว แต่หากทางเอสตราด้ายังคาใจ ตนก็พร้อมจะพิสูจน์ฝีมือล้างตากันอีกในไฟต์ต่อไปเลยก็ยังได้

 

 

ทางด้าน ศรีสะเกษ ได้ตอบคำถาม กรณีเตรียมตัวก่อนหน้าการชกโดยเผยว่า ในช่วงลดน้ำหนักก่อนขึ้นชั่งหนึ่งวัน ตนยังเกิดพิกัดอยู่ประมาณ 9 ขีด(เกือบ 1 กก.) ซึ่งทำอย่างไรก็รีดลดไม่ลง เพราะสภาพอากาศข้างนอกนั้นหนาวราวๆ 10 องศา ในเสี้ยววินาทีแห่งความท้อใจ ตนนึกถึงใบหน้าของน้องเก๋แฟนสาว ที่ย้ำเตือนอยู่เสมอให้ตนระลึกถึง ภาระสำคัญเพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติ ตนจึงกัดฟันอดทนลดน้ำหนักจนได้ในที่สุด แชมเปี้ยนโลก 2 สถาบันกล่าว ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอเบ้า

 

 

ากนั้นสื่อได้ถามศรีสะเกษว่า น้องเก๋ แฟนสาวหายไปไหน เหตุใดจึงไม่มารับ ได้รับคำตอบว่า เธอขับรถประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย และโดนไม้ถูกพื้นทิ่มขา เดินไม่สะดวก ส่วนคำถามที่ว่า ตนอยากได้รถยนต์คันใหม่เป็นรถฟอร์จูนเนอร์นั้นเป็นเรื่องจริง เดิมทีอยากได้ก่อนหน้านี้ แต่แฟนสาวนั้นแนะนำว่าควรจะซื้อบ้านเสียก่อน ตอนนี้ตนมีคอนโดแถวเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ เป็นที่พักของตัวเองแล้ว จึงน่าจะพอซื้อรถยนต์คันใหม่ตามที่ตั้งใจไว้ได้เสียที แต่ถ้าจะมีคนเอารถมาให้ก็ยินดี ถ้าหากมีใครสนับสนุนก็จัดให้ตนด้วยแล้วกัน

 

srisaket-0-1-1-696x392
กรณีข่าวในโลกออนไลน์ เย้นหยันจากทางฝั่งเอสตราด้าว่า ตนนั้นใบหน้าไม่มีริ้วรอยจากการชกเลย ผิดกับศรีสะเกษ เรื่องนี้ ทำเอาแชมป์โลกชาวไทยบันดาลโทสะถึงกับตอบสวนทันควันว่า ผมก็พร้อมจะเปิดโอกาสให้แก้มือได้ทันทีเลยเช่นกัน และอาจจะย้ำชัยถึงน็อกเอาต์เลยด้วยซ้ำ
ส่วนกรณีเข็มขัดแชมเปี้ยนเดอะริงค์ที่ตนคว้ามาครองจากการชิงแชมป์”ว่าง”ด้วยนั้น ทางสถาบั้นจะสลักชื่อของตนเมื่อเสร็จแล้วจะส่งกลับมาให้ในภายหลัง
ส่วนคู่ต่อสู้ไฟต์ต่อไป อาจจัดในเมืองไทย และอาจได้ชกกับ อากิระ ยาอิกาชิ คู่ปรับเก่า และอดีตแชมป์โลกที่เคยชนะน็อกตนในการเทิร์นโปรไฟต์แรกเมื่อราวๆ สิบกว่าปีที่แล้วที่ญี่ปุ่นนั้น หากมีโอกาสได้ล้างตากันอีกครั้ง ตนก็พร้อมและยินดีเป็นอย่างยิ่ง

 

 

วันเดียวกัน “น้องเก๋” พัชรีวรรณ กัณหา ซึ่งพักอยู่ที่คอนโดของตนเอง ย่านรัตนาธิเบศร์ เปิดใจผ่านสื่อว่า พี่แหลมนั้นได้โทรหาตนแล้ว หลังลงจากเครื่องเมื่อเสร็จพิธีการต่างๆ และเดินทางไปอัดรายการเสร็จก็จะเดินทางกลับบ้าน ได้เห็นพี่แหลมให้สัมภาษณ์สดที่สนามบิน เก๋เห็นแล้วถึงกับร้องไห้ น้ำตาซึมเลยทีเดียว จริงๆแล้วเก๋อยากไปรับพี่เขาที่สนามบินแต่เนื่องจากมีอาการเจ็บแผลบริเวณสะโพกเดินไม่สะดวก เก๋จะบอกย้ำพี่เขาเสมอว่า นับแต่นี้ไปนะ พี่แหลมไม่ได้ทำแค่เพื่อตัวของเราสองคน แต่พี่ต้องอดทดและทำเพื่อชื่อเสียงของประเทศชาติ ชีวิตของนักมวยนั้นเราไม่สามารถชกไปได้ตลอดชีวิต มันมีอายุงานไม่ถึงสิบปีก็ต้องเลิก เมื่อถึงตอนนั้นถึงเราจะเหลือกันเพียงแค่สองคน แต่เก๋ก็ภูมิใจว่าพี่แหลมได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถของพี่แล้ว

 

 

ด้านกระแสต่างประเทศ อาเมียร์ ข่าน ยอดกำปั้นชาวอังกฤษเชื้อสายปากีสถาน ที่ได้เข้าชม ศึกกำปั้นนัดนี้ถึงขอบเวที โดยกำปั้นวัย 31 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังการชกเกี่ยวกับไฟต์นี้ว่า “มันเป็นไฟต์ที่สุดยอดมากๆ โดยเฉพาะเกมการชกในยกสุดท้าย มันเป็นอะไรที่เหลือเชื่อมากๆ กับการยืนแลกหมัดกันตลอดทั้งยก”
พร้อมกันนี้นักข่าวได้ถามเจ้าตัวว่าคิดว่าใครควรเป็นผู้ชนะ ซึ่งเจ้าตัวได้ตอบว่า “นักมวยไทยเป็นผู้ชนะ แต่อาจจะเบียดกันแค่ 1-2 ยก มันเป็นการต่อสู้ที่สูสีกันมาก แต่ผมก็ยังยืนยันว่ากำปั้นไทยสมควรชนะในไฟต์นี้”

 

561000002107201

                                       Manager Online

 

 

 

ส่วนเรื่องที่ว่าควรจะมีการรีแมตช์หรือไม่ “มันเป็นความคิดที่ดี ที่สองนักสู้ที่ดีที่สุดของโลกจะมาเจอกันอีกครั้ง และเชื่อว่าแฟนกำปั้นก็คงอยากเห็น” อดีตแชมป์โลกรุ่นไลต์เวลเตอร์เวต กล่าว
สำหรับ อาเมียร์ ข่าน มีกำหนดจะคืนสังเวียนพบกับ ฟิล โล เกรโก้ นักชกชาวแคนาดา ในวันที่ 21 เม.ย. ที่ เมืองลิเวอร์พูล ถือเป็นการคืนสังเวียนอีกครั้งของเจ้าตัวหลังขึ้นชกครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2016 ในไฟต์ที่พ่ายน็อกให้กับ กาเนโล่ “ซาอูล” อัลวาเรซ กำปั้นชาวเม็กซิกัน

 

 

ด้าน อังเดร วอร์ด นักชกสหรัฐฯ วัย 34 ปี เจ้าของเข็มขัดรุ่นไลต์เฮฟวี่เวท 3 สถาบัน (WBA, WBO และ IBF) ที่ได้ชมการชกไฟต์นี้ภายในเวทีเช่นกัน กล่าวถึงแชมป์โลกชาวไทยว่า “เขาผ่านการต่อสู้มามากมายเกือบ 50 ไฟต์ นั่นแสดงว่าเขามีประสบการณ์บนสังเวียน รวมถึงประสบการณ์ชีวิตมากมาย เมื่อเขาเผชิญหน้ากับ โรมัน กอนซาเลซ ถึงสองครั้ง ซ้ำยังเอาชนะได้ทั้งสองครั้ง นั่นแสดงว่าเขาก้าวข้ามระดับนักมวยธรรมดาเรียบร้อย”

 

 

“และจากสิ่งที่ผมได้รู้มา เขาเป็นนักมวยที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา เขารับราชการตำรวจ เปลี่ยนชีวิตจากชายที่หาเศษอาหารกินตามถังขยะ แต่ปัจจุบันเขาก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จชนิดที่เชื่อเลยว่าเองคงไม่คิดฝัน แต่ด้วยความที่เขาเป็นคนทำงานหนักมาตลอดนี่คือสิ่งที่เขาได้รับตอบแทน”

“ทุกครั้งที่ผมเห็นบทสัมภาษณ์ของเขาหลังการชกจบลง สิ่งที่เขาบอกเสมอคือเขาฝึกฝนมาอย่างหนักสำหรับการต่อสู้ทุกครั้ง ศรีสะเกษทำมากกว่าคนอื่นเสมอ แน่นอนเมื่อคุณสามารถฝึกหนักมากกว่าที่คุณเคยทำครั้งก่อน นั่นเท่ากับเขาค้นพบเส้นทางที่จะก้าวขึ้นเป็นระดับโลก ซึ่งมันเหมาะสมกับเขาแล้ว” แชมป์รุ่นน้องยักษ์สามสถาบันให้ความเห็น

 

image_big_5a954ee7e7c64

                                          ไทยโพสต์

 

สำหรับศรีสะเกษ มีกำหนด จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ ห้องรับรอง ชั้น 2 สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถ.ราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ วันพุธที่ 28 ก.พ. เวลา 11.00 น.

 

@คลิกภาพ ชมคลิป..@

 

 

 

1429842850-hajimenoip-o-e15095843996061
new-logox2-e1416876872708

@ credit news –image :: : Sroi Mungmee /thairec live

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments