เจาะยิบ ศรีสะเกษ-เอสตราด้า ก่อนซด

<<>>  มวยคู่หยุดโลก ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น แชมป์โลก WBC ชาวไทย จะป้องกันแชมป์รุ่นซูเปอร์ฟลายเวทครั้งที่ 2 กับ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า กำปั้นชาวเม็กซิโก  โดยเป็นคู่เอกของศึก “ซูเปอร์ฟลาย 2” 

    ซึ่งสื่อต่างชาติ ทั้งอีเอสพีเอ็น , เอลปาโซ่ไทมส์ และ บ็อกซิ่งซีน ได้วิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย รวมถึงโอกาสแพ้ชนะของทั้งสองคนอย่างละเอียด ไล่เรียงเป็นข้อๆ

 พลังหมัด 

 ศรีสะเกษ มีจุดเด่นคือหมัดที่หนักหน่วง คนที่ต่อยนักมวยระดับโรมัน กอนซาเลซ ลงไปโดนนับ 3 ครั้งใน 2 ไฟต์หลังสุด ถ้าหากไม่มีพลังหมัดที่แข็งแกร่งจริงๆทำไม่ได้แน่นอน 

    ขณะที่สถิติการน็อคเอาต์ ของทั้งสองคนจะเห็นว่า ศรีสะเกษเหนือกว่าชัดเจน ศรีสะเกษชนะตลอดอาชีพ 44 ไฟต์ เป็นการน็อคถึง 40 ไฟต์ ขณะที่ เอสตราด้า มีสถิติชนะ 36 ไฟต์ น็อคแค่ 25 ไฟต์เท่านั้น 

    สรุป : ศรีสะเกษพลังหมัดเหนือกว่า 

   รูปร่าง 

ในการชั่งน้ำหนักก่อนชก เอสตราด้า ทำน้ำหนักได้พอดีเป๊ะที่ 115.0 ปอนด์ แสดงให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ขณะที่ศรีสะเกษ มีการลดน้ำหนักก่อนชก 5 ปอนด์ในหนึ่งสัปดาห์ ทำให้สุดท้ายน้ำหนักอยู่ที่ 114.8 ปอนด์ เบากว่าพิกัด 0.2 ปอนด์ 

    ขณะที่ส่วนสูง เอสตราด้าสูง 163 ซม. ช่วงชก 168 ซม. ส่วนเจ้าแหลม สูง 160 ซม. ช่วงชก 161 ซม. ว่าง่ายๆคือเสียเปรียบทุกอย่าง ทั้งน้ำหนัก ส่วนสูง และช่วงชก นี่อาจเป็นข้อได้เปรียบที่เอสตราด้าเป็นต่อ ศรีสะเกษ ณ เวลานี้ 

    สรุป : เอสตราด้าได้เปรียบเรื่องรูปร่าง

 ความคุ้นเคยกับ 115 ปอนด์

ศรีสะเกษ คือคนที่มีความคุ้นเคยกับรุ่น ซูเปอร์ฟลายเวทอย่างที่สุด ตั้งแต่พ่ายเคนจิ โอบะ ในไฟต์ที่ 5 ของอาชีพ เขาชกในรุ่น 115 ปอนด์มาตลอด มีความคุ้นเคยกับรุ่นน้ำหนักนี้ และจังหวะของรุ่นนี้เป็นอย่างดี 

    ขณะที่เอสตราด้า เริ่มมาชกรุ่น 115 ปอนด์ ในปี 2016 เท่านั้น เปลี่ยนมาจริงจัง แค่ไม่ถึง 2 ปี โดยเขาต้องอัพน้ำหนักขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อก้าวขึ้นมาชกรุ่นที่ใหญ่ขึ้น แถม 3 ไฟต์ที่ชก 115 ปอนด์ ยังไม่เจอกับตัวแข็งๆ จริงๆจังๆ ดังนั้นนี่จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญของเขา 

    สรุป : ศรีสะเกษได้เปรียบนิดๆในความคุ้นเคยกับน้ำหนักรุ่น 

 ความเร็ว 

เอลปาโซ่ ไทมส์ ระบุว่า เอสตราด้า เป็นคนที่มีความเร็วจัดจ้านที่สุด อาจจะพอๆกับนาโอยะ อิโนอุเอะ แชมป์ WBO เขามีความเร็วในการปล่อยหมัดแย็บ ที่ร้ายกาจ นอกจากนั้น ยังมีปริมาณการเคลื่อนที่ ที่เยอะอีกด้วย ซึ่งเอสตราด้า อาจใช้ความเร็วในการเล่นงานศรีสะเกษ 

    ขณะที่ศรีสะเกษมีพลังหมัดที่แข็งแกร่งแต่ ถ้าวัดกันที่ความเร็ว เขาเป็นรองเอสตราด้านิดๆ 

    สรุป : เอสตราด้าได้เปรียบเรื่องความเร็ว

 เทคนิค และประสบการณ์ 

ศรีสะเกษ พัฒนาอย่างชัดเจนในสองไฟต์ที่ผ่านมา เขามีความหลากหลาย ปล่อยหมัดเต็มพลัง หรือปล่อยหมัดชุด บางครั้งใช้หมัดข้างเดียวชกรัวสองจังหวะซ้อนเพื่อทำลายจังหวะคู่แข่ง นอกจากนั้น ยังรู้ว่าเมื่อไหร่ จะปล่อยหมัดเด็ดเพื่อน็อค เหมือนอย่างที่โรมัน โดนมาแล้ว 

    เอสตราด้า เป็นนักชกที่ดี มีเทคนิคที่ยอดเยี่ยม แต่เขายังไม่เคยเจอมวยหมัดหนักแบบศรีสะเกษมาก่อน คู่ชกของเขาส่วนใหญ่ จะเป็นสายเทคนิคด้วยกัน ถ้าไม่นับโรมัน กอนซาเลซ ดังนั้นนี่จะเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญของเอสตราด้า

   สรุป : ศรีสะเกษเหนือกว่าด้านเทคนิค

    ทั้งนี้มวยคู่ศรีสะเกษ ปะทะ เอสตราด้า จะชกเป็นคู่สุดท้ายของศึกซูเปอร์ฟลาย โดยช่องเวิร์กพอยต์ ทีวี ถ่ายทอดสด ตั้งแต่คู่ประกอบรายการ 8.30 น. เป็นต้นไป ขณะที่คู่ของ “เจ้าแหลม” คาดว่า น่าจะเริ่มชก ราว 10.30 น. ของวันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์

@ News  Photo Credit : siamsport .com

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments