<<>> สัพเพเหระมวยโลก (รีเทิร์น): 18/2560

 

เผยแพร่ในนิตยสารน็อคเอาท์ฉบับมวยโลก เล่มที่ 1725

 

          กลับมาพบกันอีกครั้งกับร่างแปลงของ “เก็บตกจากแมกกาซีน” อย่าง “สัพเพเหระมวยโลก” ในภาคใหม่ (แต่กลับมาหลายปีแล้วนะ) ที่รวบรวมข้อมูลและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจ ของข่าวมวยโลกทุกสารทิศ (แต่เน้นข่าวจากประเทศญี่ปุ่นและแถบเอเชียมากหน่อยนะ) ซึ่งฉบับนี้เป็นครั้งที่ 18 ของปีพุทธศักราช 2560 แล้ว ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาอย่างหนัก ขอให้เพื่อนๆระวังและรักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ อารัมภบทมามากแล้ว มาเริ่มกันที่ข่าวแรกกันเลยดีกว่าครับ 

 

 

“ไอ้หน้าเปื่อย” คาสึนาริ ทาคายาม่า อดีตแชมป์โลกรุ่น 105 ปอนด์ของ WBC/IBF/WBO และแชมป์เฉพาะกาลของ WBA ชาวญี่ปุ่นวัย 34 ปี ที่ทำเซอร์ไพรส์ให้กับวงการมวยของประเทศมาแล้วถึง 2 หน คราวแรกก็คือการแจ้งรีไทร์กับทาง JBC เมื่อหลายปีก่อน เมื่อครั้งที่ JBC ยังคงยอมรับสถาบันมวยโลกหลักแค่ 2 สถาบันเก่าแก่ เพื่อไปตามล่าแชมป์โลกรุ่น 105 ปอนด์ของ IBF และ WBO โดยไปขึ้นชกอยู่ในสังกัดของ อลา โปรโมชั่นส์ ของฟิลิปปินส์ จนกระทั่งประสบความสำเร็จดังตั้งใจทุกประการ ก่อนที่จะกลับมาขึ้นชกในประเทศอีกครั้งกับสังกัดเก่า นาคาซาโตะ โปรโมชั่นส์ หลังจาก JBC ให้การรับรองสถาบัน IBF และ WBO อย่างเป็นทางการแล้ว ก่อนที่จะประกาศรีไทร์กับทาง JBC เป็นหนที่ 2 เมื่อต้นปีนี้ โดยมีจุดมุ่งหมายคือการกลับไปขึ้นชกมวยสากลสมัครเล่น เพื่อที่จะคว้าตั๋วไปแข่งโอลิมปิคในปีค.ศ. 2020 ที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพ

 

162994-attachment

 

 

แต่หลังจากที่ทาคายาม่านั้นพยายามที่จะยื่นเรื่องเพื่อทำการขึ้นทะเบียนเป็นนักมวยสมัครเล่นกับทางสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ JABF ถึง 2 ครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธการรับเรื่องทั้งหมด แม้กระทั่งครั้งหลังสุดที่ลงทุนหอบเอกสารไปยื่นให้กับมือของ นายอากิระ ยามาเนะ ประธานของ JABF ด้วยตัวเองก็ตาม เขาก็ยังถูกปฏิเสธไม่ยอมรับเอกสารในการขึ้นทะเบียนเป็นนักมวยสมัครเล่นของประเทศ ภายใต้การรับรองของ JABF อยู่เช่นเดิม แต่ทาคายาม่าก็ยังคงเป็นทาคายาม่าที่คิดนอกกรอบคนเดิม เพราะล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นก็มีข่าวว่า จู่ๆเขานั้นก็โผล่ไปที่ไต้หวันเพื่อเข้าพบกับ นายชิงกวั๊ะวู ประธานสหพันธ์มวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ หรือ AIBA เพื่อจะขอให้ช่วยให้เขาสามารถที่จะได้รับโอกาสในการเข้ารับการขึ้นทะเบียนเป็นนักมวยสากลสมัครเล่นที่ทาง AIBA ให้การรับรอง เพื่อให้ได้รับสิทธิ์ในการขึ้นชกในรอบคัดเลือกคัดตัวไปโตเกียวโอลิมปิคในปีค.ศ. 2020 ตามความฝันของเขา

 

 

โดยท่านประธานใหญ่ของ AIBA นั้นก็ได้รับปากเขาว่า จะหาทางช่วยให้ทาคายาม่านั้นได้รับการขึ้นทะเบียนและเข้าร่วมศึกคัดโควต้าโอลิมปิคให้ได้ พร้อมทั้งตำหนิทาง JABF ว่า ยังล่าช้าในการปฏิบัติตามกฏของ AIBA ที่อนุญาตให้นักมวยอาชีพหันกลับมาชกสมัครเล่นในระดับโอลิมปิคได้มาหลายปีแล้ว ซึ่งกรณีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ญี่ปุ่นขาดนักชกฝีมือดีในระดับโอลิมปิคด้วย เรื่องนี้คงต้องตามดูว่าจะจบลงอย่างไร เพราะเชื่อว่าทาคายาม่าจะต้องพยายามอย่างสุดชีวิตอีกแน่นอน หวังว่าคงจะไม่จบลงด้วยการขออำนาจศาลให้สั่งให้ทาง JABF รับเขาขึ้นทะเบียน หรือที่หนักกว่านั้นก็คือหมอจะยอมเปลี่ยนสัญชาติ เพื่อที่จะขึ้นทะเบียนเป็นนักมวยสมัครเล่นทีมชาติของประเทศอื่น แล้วกลับเข้ามาชกในโอลิมปิคที่กรุงโตเกียวอันเป็นประเทศบ้านเกิดของตัวเอง ถ้าเป็นอย่างหลังนี่คงจะดูไม่จืดเลยจริงๆ

 

 

01

ส่วนข่าวนี้ไม่รู้ว่าจะมีการนำเสนอในเมืองไทยกันไปบ้างแล้วหรือยัง เพราะกำลังจะมีนักชกชาวไทยอีกรายหนึ่ง ที่โชคดีได้ขึ้นชิงแชมป์ในระดับโลก นั่นก็คือ เพชรมณี ก่อเกียรติ์ยิม อดีตแชมป์สาขาหลายสถาบัน อย่าง WBC Asia Continental, WBO Oriental และ WBS-PABA ในพิกัด 105 ปอนด์ ที่ปัจจุบันเป็นรองแชมป์อันดับ 4 ในรุ่นนี้ของ WBA ที่โชคดีได้รับเทียบเชิญจาก เหว่ย ซื่อ ไห่ คอมปานี ให้เดินทางไปชิงแชมป์เฉพาะกาลในรุ่นมินิมัมเวตของ WBA ที่ว่าง* กับรองแชมป์อันดับ 15 ชาวจีน ดีกรีอดีตแชมป์โลกรุ่นเดียวกันนี้ของ WBC สยง เฉ่า จ้ง หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าเสียงเจ้าจง เจ้าของฉายาที่ฝรั่งเรียกกันว่า “ลิตเติ้ล แบร์” หรือ “ไอ้หมีเล็ก” นั่นเอง

 

ถ้าจะยังจำกันได้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้น ก็มีข่าวออกมาก่อนหน้าแล้วว่า ทางโปรโมเตอร์ หลิว กัง พร้อมทั้ง เหว่ย ซื่อ ไห่ คอมปานี นั้นได้เตรียมแผนการคัมแบ็กให้กับเฉ่าจ้ง อดีตแชมป์โลกมวยสากลชายคนแรกของจีน ที่ร้างสังเวียนไปนานถึง 19 เดือนด้วยกัน และจะเป็นการส่งให้ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นมินิมัมเวตของ WBA จาก น็อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท เจ้าของตำแหน่งชาวไทยเลยทันทีเสียด้วย โดยทาง เหว่ย ซื่อ ไห่ นั้น ได้เตรียมที่จะจัดการแถลงข่าวขึ้นอย่างเป็นทางการ ในวันศุกร์ที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา และได้วางวันเวลาการแข่งขันเอาไว้แล้วในวันอังคารที่ 3 ตุลาคมนี้ ซึ่งตรงกับวันครบรอบคล้ายวันเกิดปีที่ 35 ของทาง ฉยง เฉ่า จ้ง อีกด้วย

 

03

 

แต่รายงานข่าวจากสำนักข่าวสื่อนาของจีนก็ได้เปิดเผยว่า เพียงแค่ 4 วันก่อนที่จะถึงกำหนดการแถลงข่าวนั้น ทางผู้จัดก็ได้รับข่าวด่วนข้ามประเทศแจ้งมาว่า แชมป์โลกชาวไทยนั้นติดภารกิจด่วนทางราชการทหาร ซึ่งตามข่าวนั้นบอกว่าเป็นภารกิจระยะสั้นเพียงแค่ประมาณ 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งทางสื่อนั้นก็ได้ลงรูปแชมป์โลกชาวไทยในขณะปฏิบัติหน้าที่ในชุดทหารให้ชมกันด้วย และในเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ทาง นาย ลู่ เสี่ยว หลง CEO ของ เหว่ย ซื่อ ไห่ นั้นถึงกับต้องกุมขมับ แต่ในที่สุดยอดโปรฯ หลิว กัง คนโตของ WBA China สถาบันลูกของ WBA ก็ทำเรื่องด่วนถึงบอร์ดของสถาบันอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็ได้มีการอนุมัติให้เฉ่าจ้งได้ขึ้นชิงแชมป์เฉพาะกาลที่รุ่น 105 ปอนด์ที่ว่าง* กับรองอันดับ 4 ชาวไทยที่ชื่อว่า ปัญญา ประดับศรี หรือ เพชรมณี ก่อเกียรติ์ยิม

 

02

 

ในวันและสถานที่แห่งเดิม ซึ่งก็คือโรงยิมของมหาวิทยาลัยต้าถง ในเมืองต้าถง มณฑลซานซี ประเทศจีน นั่นเอง นอกจากนั้นแล้วทาง WBA ยังอนุมัติให้คู่นี้เป็นการชิงแชมป์ WBA International ในรุ่นนี้ที่ว่างอีกตำแหน่งด้วย แถมยังระบุว่าผู้ชนะของคู่นี้จะต้องได้ชิงแชมป์โลกเส้นจริงภายใน 6 เดือนอีกด้วย หลิว กัง นี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

 

* หมายเหตุ: รายงานจากสื่อจีนบอกไว้อย่างนั้น แต่ท้ายที่สุดแล้วมวยคู่นี้ก็เป็นการชิงแชมป์ WBA International รุ่น 112 ปอนด์เพียงแค่เส้นเดียวเท่านั้น

 

 

@ news –image credit :: Boxing-Boy’s

 

 

Attachments

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments