<<>> ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตนักฟุตบอลชื่อดังที่ล่าสุดหันมาเอาดีทางวงการหมัดมวย ซึ่งเจ้าตัวจริงจังถึงขั้นรอให้คณะกรรมการกีฬามวยของสหราชอาณาจักร (BBBofC) ออกใบอนุญาตในการเป็นนักมวยอาชีพแบบเต็มตัวต่อไป

 ก่อนหน้านี้ เฟอร์ดินานด์ ในวัย 38 ปี แสดงความสนใจในกีฬาชกมวยอย่างจริงจัง เมื่อโพสต์คลิปขณะฝึกซ้อมมวยอยู่หลายครั้ง โดยปัจจุบันมี ริชี วูดฮอลล์ อดีตแชมป์รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวตของสภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) มาเป็นโค้ชดูแลในเรื่องนี้

 c7hbbea8b56jbabfkaa8f
 

 อย่างไรก็ตาม เฟอร์ดินานด์ ไม่ใช่นักกีฬาคนแรกที่สร้างความประหลาดใจด้วยการเปลี่ยนสายอาชีพที่ตนเองแจ้งเกิด เพราะก่อนหน้านี้มีนักกีฬาหลายคนที่หันมาเอาดีในสายกีฬาชนิดอื่น ซึ่งบางคนก็มีดีถึงขั้นประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มาประดับบารมีได้อีกด้วย

 

ทิม วีเซ
(ฟุตบอล, มวยปล้ำ)

 

 อดีตผู้รักษาประตูดีกรีทีมชาติเยอรมัน เคยเฝ้าเสาให้กับทีมดังในบุนเดสลีกาหลายสโมสร รวมถึงยังก้าวไปทีมชาติอินทรีเหล็กอีก 6 ครั้ง ก่อนตัดสินใจผันตัวมาเป็นนักมวยปล้ำในปี 2014 หลังหมดสัญญากับ ฮอฟเฟนไฮม์ 

 

aaiikecj65ahkjgchbbad

 

 

 วีเซ เผยว่า “ผมมีความฝันอยากเป็นนักมวยปล้ำชื่อดังระดับโลกและได้อยู่ในทีมเดียวกับซูเปอร์สตาร์อย่าง บร็อค เลสนาร์ ขวัญใจของผม” แต่การจะเป็นนักมวยปล้ำไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปี โดยจุดเริ่มต้นนั้นต้องย้อนไปในเดือนพฤศจิกายน ปี 2014 วีเซ ได้เป็นแขกรับเชิญในรายการของ “ดับเบิลยูดับเบิลยูอี” (WWE) ที่มาโชว์ที่แฟรงค์เฟิร์ตในฐานะกรรมการผู้รักษาเวลา ซึ่งเขาทำได้ดีทีเดียว ทำให้หลังจากนั้นจึงได้รับเชิญจากตำนานอย่าง ทริปเปิล เอช(Triple H) ให้ลองมาชมศูนย์พัฒนาศักยภาพของดับเบิลยูดับเบิลยูอีที่ฟลอริดา 

 

 

 กระทั่งเวลาต่อมา อดีตนายด่านเยอรมนี จึงได้เปิดตัวกับกับบทบาทนักมวยปล้ำอาชีพ ภายใต้ฉายาใหม่ “เดอะ แมชชีน”เมื่อประเดิมขึ้นสังเวียน ดับเบิลยูดับเบิลยูอี โดยผนึกกำลังกับ เชมุส และ เซซาโร ขึ้นดวลกับทีมคู่หูไชนิ่ง สตาร์ ในการแข่งขันแบบแท็กทีม 6 คน ในการแข่งขันที่โอลิมเปียฮอลล์ ในเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมัน ซึ่งมีแฟนส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ วีเซ อย่างล้นหลามและเจ้าตัวก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังเมื่อสามารถล้มทีมคู่แข่งก่อนเป็นฝ่ายเอาชนะได้ตั้งแต่ขึ้นปล้ำอาชีพครั้งแรก

 

 

 อย่างไรก็ตามหลังจากร้างสนามไป 3 ปี วีเซ กลับมาโลดแล่นบนผืนหญ้าอีกครั้งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อเปิดตัวเป็นนักเตะใหม่กับ เอสเอสวี ดิลลินเกน ทีมในลีกสมัครเล่นของเยอรมนี และได้ประเดิมเฝ้าเสาในเกมแพ้ ทีเอสวี เฮาน์ไชม์ 1-2 ไปเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา

 

 

ไมเคิล จอร์แดน
(บาสเกตบอล, เบสบอล)

 

ibbf8a88eb65hbaabh5eg

 

 

    หลายคนบอกว่า ไมเคิล จอร์แดน เป็นนักบาสเกตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก แต่หลายคนไม่รู้ว่าเขาก็มีฝีมือด้านเบสบอลด้วย จอร์แดน เจ้าของแชมป์เอ็นบีเอ 6 สมัย และเอ็มวีพีรอบไฟนอลอีก 6 สมัย เคยเซ็นสัญญากับชิคาโก ไวท์ซ็อกซ์ เมื่อปี 1994 ท่ามกลางเสียงลือหนาหูว่าเขาเซ็นสัญญาเพราะเหตุผลทางการตลาด จนทำให้เขาออกมาเปิดเผยเรื่องราวเบื้องลึกว่านี่เป็นการสานต่อความฝันของคุณพ่อ เจมส์ จอร์แดน ที่ต้องการให้เขาเล่นเบสบอลในตอนเด็ก

 

 

 “ผมเลือกที่จะเล่นเบสบอลเพราะผมรักพ่อ พ่ออยากให้ผมเล่นเบสบอลอาชีพมาตลอด และวันนี้ผมก็เริ่มทำมัน” จอร์แดน อธิบายถึงสาเหตุที่เลือกเล่นเบสบอลหลังจากต้องสูญเสียคุณพ่อไปจากเหตุการณ์ร้าย

 

 

 เขาเริ่มต้นไม่ค่อยสวยนักกับ ชิคาโก ไวท์ซ็อกซ์ จนถูกส่งตัวต่อให้กับทีม เบอร์มิงแฮม บารอนส์ซึ่งเป็นทีมลูกหม้อของชิคาโก ไวท์ซ็อกซ์ ซึ่งที่นี่เองทำให้เขาได้โอกาสแสดงฝีมืออย่างเต็มที่ ก่อนที่จากนั้นอีก 1 ปี เขาก็ประกาศแขวนไม้แล้วหวนกลับคืนสู่วงการเอ็นบีเอในปี 1995 อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในฐานะไอค่อนของวงการกีฬา

 

 

 ปัจจุบัน ไมเคิล จอร์แดน ถูกจัดอันดับเป็นหนึ่งในนักธุรกิจระดับมหาเศรษฐีที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในวงการกีฬา 1.31 พันล้านดอลลาร์(ราว 40,000 ล้านบาท) จากการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ นิตยสารการเงินชื่อดังของสหรัฐ

 

 

นาสเซอร์ อัล-อัตติยาห์
(แรลลี, เป้าบิน)

 

bc58cb7db8kk95d6h98gi

 

 

    เป็นทั้งนักแข่งแรลลี และนักกีฬายิงปืนเป้าบินทีมชาติกาตาร์ในเวลาเดียวกัน แถมยังทำได้ดีทั้ง 2 ชนิดกีฬา โดยประวัติในฐานะนักแม่นปืนทีมชาติถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียว เมื่อเคยคว้า 1 เหรียญทองกับ 1 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันยิงเป้าบิน ประเภทสกีตชาย ในเอเชียนเกมส์ 2010 นอกจากนี้ยังผ่านเวทีโอลิมปิกเกมส์มาแล้วถึง 6 ครั้ง และสามารถคว้าเหรียญทองแดงมาได้ 1 เหรียญ ในประเภทสกีตชายของศึกลอนดอนเกมส์ 2012 ที่อังกฤษ พร้อมกับเป็นนักกีฬาจากกาตาร์คนแรกที่คว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์คนแรกที่เป็นชาวกาตาร์ซึ่งไม่ได้โอนสัญชาติ

 

 

 ขณะที่ผลงานในวงการแรลลีซึ่งสร้างชื่อเสียงให้เขาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก หลังเคยคว้าแชมป์ แรลลีชิงแชมป์โลก (WRC) ประเภทรถโปรดักชันคาร์ในปี 2006 ก่อนประสบความสำเร็จเป็นนักกีฬาจากชาติอาหรับคนแรกที่คว้าแชมป์ดาการ์ 2011 ได้สำเร็จ จากทั้งหมด 2 สมัยที่ทำได้อีกหนึ่งครั้งคือปี 2015 ซึ่งเป็นแชมป์ครั้งล่าสุดของเจ้าตัว

 

 

 จากตัวอย่างที่กล่าวมาเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักกีฬาคนหนึ่งตัดสินใจหันเหชีวิตมาลิ้มลองรสชาติในชนิดกีฬาที่แปลกใหม่ 

 

 

 ส่วนหนึ่งมาจากความใฝ่ฝันของตัวเองเป็นทุนเดิม บางรายเปลี่ยนแล้วประสบความสำเร็จ ขณะที่บางรายก็เพียงแค่ได้ลองดูสักครั้งก็พอใจแล้ว ซึ่งในรายของ เฟอร์ดินานด์ คงมีเพียงระยะเวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เขาแค่อยากลองมาสัมผัสหรือต้องการเดินหน้าไขว่คว้าความสำเร็จเหมือนเมื่อครั้งโลดแล่นบนผืนหญ้า สมัยเป็นนักเตะที่เขาเคยทำได้ดีมาก่อนเช่นกัน

 

 

komchadluek

@ news –image credit :: www.komchadluek.net

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments