<<>> บนผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาลของประเทศจีน ก่อกำเนิดซึ่งสรรพสิ่งมากมาย เอกลักษณ์ทางศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ รวมถึงการผลิตบุคลากรชั้นยอดในวงการกีฬา
นักกีฬาจากแดนมังกรสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาอย่างยาวนาน พวกเขาคือประเทศที่อยู่ในระดับสูงของกีฬาโอลิมปิค เกมส์ แน่นอนว่าคนที่เก่งที่สุดบนโลกในหลายๆชนิดกีฬาก็เป็นคนจีน
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกชนิดกีฬาที่จะเป็นที่นิยมในแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้ ซึ่ง ‘มวยสากลอาชีพ’ ถือเป็นหนึ่งในนั้น
“ในประเทศฝั่งตะวันตก พวกเขามีประวัติศาสตร์กีฬามวยอันยาวนานและยิ่งใหญ่ ผู้คนทุกเพศทุกวัยให้ความสนใจและตื่นเต้นกับการชกมวยเป็นอย่างมาก แต่กับประเทศจีนแล้ว เรายังคงต้องทำงานหนักเพื่อให้มันเกิดขึ้นต่อไป”
โจว ซื่อ หมิง ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิค และแชมป์ WBO รุ่นฟลายเวทชาวจีน ให้สัมภาษณ์กับ AFP
“แน่นอนว่าการชกมวยไม่ได้เป็นกีฬาที่สามารถเล่นกันได้ทุกที่ มวยไม่ใช่กีฬาที่จะเล่นได้สะดวกสบายเหมือนอย่าง แบดมินตันหรือเทเบิลเทนนิส ซึ่งเด็กๆชาวจีนจำนวนมากเลือกเล่นและมุ่งมั่นกับมัน”
โดยโจว ซื่อ หมิง ซึ่งปัจจุบันกำลังฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อเตรียมตัวป้องกันแชมป์โลกครั้งแรกของเขากับผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่น ‘โช คิมูระ’ ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
“ผมอยากจะตะโกนดังๆเพื่อบอกกับทุกคนในประเทศจีนว่า ผม โจว ซื่อ หมิงนะ ผมไปเอาเข็มขัดแชมป์โลกจากลาสเวกัสมาเก็บไว้ที่นี่แล้ว ที่ประเทศจีนนี่ไง พร้อมๆกับอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นว่า ถ้าผมทำมันได้ พวกคุณก็ทำมันได้เช่นกัน”
ซึ่งในอนาคตภายหลังจากการแขวนนวม นักชกประวัติศาสตร์ก็ยังคงมีความต้องการที่จะพัฒนากีฬามวยในประเทศจีนต่อไป เขาวางแผนในการผันตัวเป็นโปรโมเตอร์และเป็นผู้ฝึกสอนนักกีฬารุ่นใหม่ๆขึ้นมา
“ด้วยประสบการณ์ทุกอย่างที่มี ด้วยเข็มขัดแชมป์ที่ไปคว้ามาจากลาสเวกัส ผมอยากจะแบ่งปันความรู้สึกอันยอดเยี่ยมเช่นนี้ให้กับชาวจีนทุกคน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาต่อไป”
“สิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลที่ผมเลือกป้องกันแชมป์ครั้งแรกที่ประเทศจีนแห่งนี้ ผมอยากให้คนจีนทุกคนได้รับรู้ความรู้สึกนี้ไปพร้อมๆกัน ความรู้สึกที่ผมจะพยายามสุดความสามารถเพื่อรักษาเข็มขัดและความเป็นแชมป์โลกให้อยู่ในประเทศจีนต่อไป”
โจว ซึ่งเซ็นสัญญาเป็นนักชกในสังกัด ท๊อปแรงค์ โปรโมชั่น ได้ตัดสินใจจัดการชกป้องกันแชมป์โลกครั้งแรกนี้ ที่ประเทศจีนบ้านเกิด โดยการเป็นผู้จัดหรือโปรโมเตอร์ให้กับตัวเอง
“ผมอาจมีเวลาบนสังเวียนการต่อสู้อีกไม่นานนัก นักสู้ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บและสังขาร บางทีในวันพรุ่งนี้ ผมอาจออกมาประกาศกับทุกคนว่าผมไม่สามารถชกได้อีกแล้วก็เป็นได้”
“แต่ตราบใดที่ยังไหว ผมจะไม่มีวันบอกลามวยเด็ดขาด ผมเกลียดการที่จะต้องบอกลากับสิ่งที่รัก”
#ขออภัย โฆษณามารบกวน แต่ถ้าไม่มีเขาวันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่มีไทยเรค ดูนิดนะคับ
@ credit news –image :: boxingscene/ฝีปากมวยโลก
