<<>>  ย้อนไปเมื่อประมาณ 10 ปี ชื่อเสียงของนักชกจากวังวิเศษ จ.ตรัง คนนี้จัดอยู่แถวหน้าของวงการ เพราะ ‘สะตอเหล็ก’ แสงหิรัญ ลูกบ้านใหญ่ ประสบความสำเร็จเป็นทั้งแชมป์ลุมพินี, ประเทศไทย และนักมวยเงินแสน นอกจากนี้ก็เกือบจะได้ชิงแชมป์โลกอีกด้วย ทว่าโชคและวาสนาไม่เข้าข้าง หลังจากเลิกมวยแสงหิรัญได้ใช้ความรู้ความสามารถเป็นครูมวยในต่างประเทศทั้งสิงคโปร์และจีน ก่อนจะกลับมาเป็นเทรนเนอร์ค่าย ส.เดชะพันธ์ ของ ‘สารวัตรเชษฐ์’ พ.ต.ต.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ ในปัจจุบัน

 

b519d288a2c0b92dd8d8604f7b2c8cae

 

           แสงหิรัญ มีชื่อจริงตามบัตรประชาชนว่า อดิรัญ จันทร์ทอง เกิดเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2523 ที่ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง พ่อชื่อภิรมย์ แม่ชื่อสมศรี จันทร์ทอง มี วังวิเศษ ลูกบ้านใหญ่ เป็นพี่ชายทำให้แสงหิรัญชอบมวยมาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งพ่อเป็นหัวหน้าคณะ ส.ภิรมย์ทอง ทำให้แสงหิรัญได้เป็นนักมวยตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ
          “พ่อเป็นคนหัดมวยให้ผมตั้งแต่ผมอายุได้ 7 ขวบ หัดได้ไม่นานผมก็มีโอกาสขึ้นชกครั้งแรก โดยใช้ชื่อว่า แสงหิรัญ ส.ภิรมย์ทอง ไฟต์แรกผมชนะคะแนนได้ค่าตัว 120บาท”
           หลังจากประเดิมไฟต์แรก แสงหิรัญ เดินสายชกมวยไปทั่วภาคใต้เพื่อสั่งสมกระดูกมวยจนชื่อเป็นที่รู้จักของแฟนมวยแดนสะตอมากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเรียน ม.3 ชีวิตจึงหักเหเข้ามาเมืองกรุง
          “เพื่อนพ่อเป็นคนแนะนำให้พ่อพาผมมาอยู่กับป๋าโจ ลูกบ้านใหญ่ (ประวิทย์ ถืออยู่) ตอนผมเรียนอยู่ ม.3 ตอนนั้นกระดูกมวยผมเริ่มมีแล้วเข้ามาซ้อมที่ค่ายลูกบ้านใหญ่ ผมจึงใช้สีเสื้อลูกบ้านใหญ่ ซ้อมอยู่หลายเดือนก่อนจะได้ชก ผมชกเมืองกรุงครั้งแรกในศึกอัศวินดำที่เวทีราชดำเนิน ชกหลังคู่ถ่ายทอดครับ ชนะคะแนน เด่นมณี เกียรติยงยุทธ ได้ค่าตัว 6 พันบาท”
          แสงหิรัญชกในศึกอัศวินดำต่อเนื่องทำให้ชื่อเป็นที่รู้จักของแฟนมวยเมืองกรุง โดยได้เจอกับนักมวยดังหลายคนอาทิ แพ้น็อก “ปะจูเนียร์” สิงห์สัมพันธ์ เกียรติสิงห์น้อย ยก 4, ชนะคะแนน จะเด็ด ส.บุญนาค จากนักมวยค่าตัวไม่กี่พันบาทกลายเป็นนักมวยเงินหมื่น ต่อมาป๋าโจได้เสนอชื่อในศึกดาวรุ่งทีวีสี 7 และศึกเกียรติเพชร พร้อมกับชกออกตู้ช่อง 3 ในศึกจ้าวมวยไทย ทำให้แสงหิรัญแจ้งเกิดเต็มตัวในฐานะนักมวยที่หมัดศอกดี จังหวะเตะต่อยแข็งแรง จนได้ฉายา สะตอเหล็ก พร้อมทะยานเป็นนักมวยเงินแสนได้สำเร็จ
          “ผมชกศึกดาวรุ่งทีวีสี 7 ของ บิ๊กอึ่ง (สหสมภพ ศรีสมวงศ์) และศึกเกียรติเพชรของป๋าชุ้นจนชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของแฟนมวยได้เจอกับนักมวยดังหลายคน แพ้คะแนน โชคอำนวย ส.เพลินจิต ก่อนจะเดิมพัน 1 ล้านบาทกับ งาเทา อรรถรุ่งโรจน์ ผมชนะคะแนน,ชนะคะแนน อนุวัฒน์ แก้วสัมฤทธิ์, ชนะคะแนน วัชรชัย แก้วสัมฤทธิ์, ชนะคะแนน ขงเบ้ง ก.ร่มศรีทอง, ชนะคะแนน ไทยแลนด์ ปิ่นสินชัย, ชนะคะแนน ลูกต้นและลูกตั้ม ส.เพลินจิต, แพ้คะแนน แสนชัย ส.คิงส์สตาร์ ได้ค่าตัว 1.2 แสนบาท
          เมื่อชื่อและบารมีถึง แสงหิรัญ จึงได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์ โดยชิงแชมป์เวทีลุมพินีและแชมป์ประเทศไทยรุ่น 122 ปอนด์กับ “เข่าตะเกียบเหล็ก” นนทชัย ศิษย์โอ และปรากฏว่าแสงหิรัญกระชากแชมป์มาครองด้วยการชนะน็อกนนทชัยยก 2 ผงาดเป็นแชมป์สองสถาบันก่อนจะมาเสียแชมป์ให้กับ เพชรเอก ศิษย์เจ้าพ่อ  
 

 

O080913F0M1N

 

 

          ด้วยเหตุที่แสงหิรัญต่อยหมัดดีทำให้ “หมอยา” อรรถพร หรือ นพพร ตั้งนุศาสตร์ ทาบทามแสงหิรัญชกมวยอาชีพ ซึ่งนักชกดังจากเมืองหมูย่างก็ทำได้ดีจนได้แชมป์สภามวยอาชีพหรือ ABCO รุ่น 122 ปอนด์มาครอง โดยชกมวยอาชีพต่อเนื่องทั้งอุ่นเครื่องและป้องกันแชมป์กระทั่งเตรียมตัวตัดเชือกเพื่อจะชิงแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต สภามวยโลก (WBC) กับ นภาพล เกียรติศักดิ์โชคชัย ทว่าต้องคลาดคลากันถึง 3 ครั้ง 3 ครา ครั้งแรกแสงหิรัญผ่าตัดไส้ติ่ง ครั้งที่ 2 นภาพลบาดเจ็บไหล่หลุด และครั้งที่ 3 สภามวยโลก เลื่อนการชกออกไป ที่สุดก็ได้ชกกันในช่วงที่แสงหิรัญร้างเวทีไปถึง 1 ปีเต็มทำได้ดีกว่าในยกต้นๆ ทำคะแนนนำไปก่อน แต่หลังจากยก 6 ไปแล้วนภาพลเร่งเครื่องแรงขึ้นแสงหิรัญกลับหมดแรงจนถูกน็อกในยกที่ 10 
 

 

 

          เมื่อพลาดท่าไม่ได้ชิงแชมป์โลก แสงหิรัญ กลับมาชกมวยไทยอีกครั้งและประสบความสำเร็จได้แชมป์เวทีมวยช่อง 7 สี รุ่น 126 ปอนด์ มาครองด้วยการชนะคะแนน สันติภาพ เจริญเกษม จากนั้นแสงหิรัญก็ชกไม่กี่ไฟต์จึงตัดสินเลิกมวย เพราะร่างกายไม่ไหว 
 

           “หลังจากที่ผมเลิกมวยผมไปสอนมวยที่จีนและที่สิงคโปร์หารายได้เลี้ยงตัวเองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะกลับมาเป็นเทรนเนอร์ที่ค่าย ส.เดชะพันธ์ ของสารวัตรเชษฐ์มีความสุขดีครับ ตอนนี้ชีวิตผมไม่ลำบากอยู่ได้สาบายๆ ครับ ครอบครัวก็ไม่ลำบากอยู่ได้ ผมมาถึงวันนี้ได้เพราะมวย และจะอยู่กับมวยไปจนกว่าจะไม่ไหวครับ”
 

 

 

           ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวความสำเร็จของ แสงหิรัญ ลูกบ้านใหญ่ ที่ฝากกับวงการมวยและจะยังอยู่กับวงการมวยไปอีกนานในฐานะเทรนเนอร์ที่พร้อมจะสร้างมวยเข้าสู่วงการ     แฟนมวยที่ชื่นชอบการชกของแสงหิรัญก็ติดตามผลงานการเทรนของแสงหิรัญได้ และด้วยประสบการณ์บวกกับความสามารถ แสงหิรัญ ต้องปั้นนักมวยในค่าย ส.เดชะพันธ์ให้กระหึ่มแน่นอน

 

 

JunglesOfThailand

 

#ขออภัย โฆษณามารบกวน แต่ถ้าไม่มีเขาวันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจจะไม่มีดูนิดนะคับ


Siamsport_LOGO-e1417147432794

@ News  Photo Credit : siamsport

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments