-@@- จบลงไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลายภายในห้วงลึกจิตใจของแฟนมวยชาวไทยทั้งประเทศ สำหรับคู่มวยชิงแชมป์เฉพาะกาลของสมาคมมวยโลก WBA 105 ปอนด์ ซึ่งชัยชนะก็ตกเป็นของ น๊อคเอาท์ ซีพีเฟรชมาร์ท เหนือคู่ชิงอย่างคาร์ลอส บุยทราโก้ นิคารากัวตัวอันตรายคว้าเข็มขัดอันเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นรองอันดับ 1 และสิทธิ์ในการชิงเส้นจริงมาครองได้สำเร็จ
ที่ต้องบอกว่าจบด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย นั่นก็เป็นเพราะเมื่อการชกจบลง ในยุคที่คนไทยทั้งประเทศใช้เฟสบุคเปรียบดังปัจจัยที่หก ต่อจากโทรศัพท์มือถือ การวิพากย์วิจารณ์จึงตามมามากมาย ซึ่งมันสร้างความระอุไปทั่วทุกหัวระแหงเท่าที่สัญญาณอินเตอร์เนตจะไปถึง บ้างก็ว่าผลการชกไร้ซึ่งความยุติธรรมกับผู้แพ้สิ้นดี บ้างก็ว่าก็เหมาะสมอยู่ เพราะของเราก็เดินเข้าหาตลอด ถึงแม้ว่าจะรับหมัดแย๊บจนบอบช้ำไปทั่วทั้งใบหน้าก็ตาม
การตัดสินแบบค้านสายตาแฟนมวย โดยเฉพาะการโอนเอียงเข้าหาฝั่งเจ้าบ้านไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นกีฬาชนิดใด หรือไม่ว่าจะเกิดที่ประเทศใดก็ตาม แต่เหตุผลที่แฟนมวยวิพากย์วิจารณ์กันอย่างหนักในช่วงนี้ก็เพราะว่ามวยคู่นี้ดันไปจัดในช่วงที่ชาวเอเชียกำลังตั้งหน้าตั้งตาลุ้นเหรียญจากมหกรรมกีฬาของชาวเอเชีย “อินชอน เกมส์” ที่ประเทศเกาหลีใต้ และมีอารมณ์โมโหกับผลการตัดสินในหลายๆชนิดกีฬาที่เจ้าภาพได้ประโยชน์มากมายเหลือเกิน และหลงคิดเตลิดไปนิดว่า “ไร้สปิริต ประเทศเราไม่มีขนาดนี้แน่ๆ” มันทำให้สถานะของการชิงแชมป์เฉพาะกาลครั้งนี้ติดลบไปในความรู้สึกของแฟนมวยชาวไทยบางส่วนทันที
จริงๆแล้วในปีนี้โปรโมชั่นยักษ์ใหญ่ในบ้านเรา ส่งมวยสร้างในสังกัดขึ้นชิงแชมป์โลกกันเยอะแยะ มากมายกว่าหลายๆปีที่ผ่านมาด้วยซ้ำ แต่เหลือแชมป์โลกตัวจริงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นเอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกือบทั้งหมดที่ได้ชิง มักจะเป็นการชกนอกบ้านแทบทั้งสิ้น ส่งผลให้ยังควานหาชัยชนะนอกบ้านไม่เจอ แถมเกือบทั้งหมดกลับมาแบบไม่ครบยกอีกต่างหาก ซึ่งกลับกันกับการชกในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นอำนาจป้องกันแชมป์ น็อคเอาท์ชิงแชมป์เฉพาะกาล หากเกมส์การชกออกมาสูสีครบยก เราก็เป็นฝ่ายชนะไม่ต่างกัน
อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าใครจะคิดว่าเกมส์การชกเป็นอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ แต่ผลการชกที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ก็คือ น็อคเอาท์เป็นผู้ชนะ และเป็นแชมป์เฉพาะกาลคนปัจจุบัน หากยังอยากป้องกันแชมป์ หรือก้าวเป็นแชมป์จริงต่อไป น็อคเอาท์ และทีมงานจะต้องพัฒนา หาจุดบกพร่อง แก้ไขและลบครหาในครั้งนี้ด้วยการเอาชนะไฟต์ต่อไปอย่างใสสะอาด และชัดเจนให้แฟนมวยได้ประจักษ์มากกว่านี้
สุดท้ายสำหรับนักมวยที่กำลังจะมีศึกใหญ่ทุกคน ชาวไทยทุกคนยังคงเป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่ให้เฉกเช่นที่เคยเป็น ทั้งออกนอกถิ่น ไม่ว่าจะเป็น ยอดมงคล ชลธาร ขวัญพิชิต หรือในบ้านตามข่าวก็จะมี วันเฮง ขึ้นชิงแชมป์โลก (เสียที) ในวันที่พวกคุณขึ้นชก แฟนมวยทุกคนต่างก็เปิดทีวีรอชม หากไม่มีการถ่ายทอดสดก็มุ่งหน้าหาลิงค์มาแบ่งกันให้จ้าละหวั่น แรงเชียร์มีให้ไม่มีวันหมดแน่นอน หากแต่แรงศรัทธาที่เกิดขึ้น มันเกิดจากทุกอย่างที่นักมวยและทีมงานแสดงออกมาในวันชก สู้แค่ไหน สร้างความประทับใจให้พวกเขาแค่ไหน
สู้ให้เต็มที่ สู้ให้สุดความสามารถ คนไทยไม่เคยทิ้งกันอยู่แล้วครับ
ปล.ชื่อเรื่องอาจไม่เกี่ยวอะไรกับเนื้อหานะครับ จริงๆมันเป็นชื่อเพลงอมตะเพลงหนึ่งของ บ๊อบ ดีแลน ผมรู้สึกว่ามันเหมาะดีกับการใช้ชีวิต บางทีก็สมหวัง บางครั้งก็ผิดหวัง ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไข เดี๋ยวมันก็สลายไปกับสายลม เปรียบกับการเป็นนักมวยถึงจะถูกติติง ถูกวิจารณ์ในแง่ลบบ้าง แต่ทุกครั้งที่ขึ้นชก ไม่ว่าจะส่วนไหนของโลก แม้จะไม่มีการถ่ายทอดสดกลับเมืองไทย พวกคนที่ติเตียน หรือวิพากย์วิจารณ์ เขาก็ตามล่าหาการถ่ายทอดสดผ่านทางอินเตอร์เนตเพื่อจะให้ได้เห็นตัวแทนคนไทยขึ้นชกสดๆ และยามใดที่การชกประทับใจพวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะมอบศรัทธาให้ทันที เป็นกำลังใจให้ครับ ไม่ว่าจะเกิดปัญหาใดๆ Blowning in the wind เดี๋ยวมันก็สลายไปกับสายลม
ปล.2 ผมเขียนบทความนี้พร้อมอารมณ์ดราม่าล้วนๆเลย ฮ่าๆขออภัยด้วยครับ
@ ขอขอบคุณ ข่าว-ภาพ จาก : Aniwat Injongkol–
