-@@- แสนศักดิ์ได้แชมป์โลกในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวท สภามวยโลก (WBC) เพียงการชกแค่ครั้งที่ 3 โดยชนะทีเคโอ (ยอมแพ้) ยก 8 เปริโก้ เฟอร์นันเดซ นักมวยชาวสเปน ในปี พ.ศ. 2518 แต่แสนศักดิ์ป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้เพียงครั้งเดียว โดยการเอาชนะน็อก เท็ตสุโอะ ‘ไลอ้อน’ ฟูรูยาม่า นักมวยชาวญี่ปุ่นเท่านั้น จากนั้นได้ไปป้องกันตำแหน่งกับ มิเกล เวลาสเควซ นักมวยชาวสเปน ที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน แสนศักดิ์ถูกจับแพ้ฟาล์วในยกที่ 4 เนื่องจากไปชกเวลาเควซล้มลงในช่วงระฆังตีบอกยกหมดเวลา เสียแชมป์โลกทันที ฝ่ายไทยพยายามประท้วงแต่ก็ไม่เป็นผล

3

 

อีก 4 เดือนต่อมา แสนศักดิ์จึงได้โอกาสแก้มือที่ประเทศสเปนอีกครั้ง คราวนี้ แสนศักดิ์เป็นฝ่ายชนะน็อกไปเพียงแค่ยกที่ 2 ได้กลับมาเป็นแชมป์โลกในสมัยที่ 2 จากนั้น แสนศักดิ์ได้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง และบางครั้งเป็นไฟต์แห่งความทรงจำที่ยังคงตรึงใจแฟนมวยอยู่จนทุกวันนี้ เช่น ชนะน็อก มอนโร บรู๊คส์ นักมวยชาวอเมริกันไปอย่างสุดมัน ในยกที่ 15 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ชนะคะแนน ซาอูล แมมบี้ นักมวยชาวอเมริกันอีกคนที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น

 

แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ ขณะชกกับ โธมัส เฮิร์นส์ เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2522 ที่สหรัฐอเมริกา

แสนศักดิ์ เสียแชมป์โลกในการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 8 ของสมัยที่ 2 กับ คิม ซาง ฮัน นักมวยชาวเกาหลีใต้ เมื่อปลายปี พ.ศ. 2521 ถึงกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ ถิ่นของผู้ท้าชิงเอง โดยแพ้น็อกไปในยกที่ 13 เนื่องจากสภาพร่างกายของแสนศักดิ์ไม่แข็งแกร่งเหมือนเก่า และสายตาก็เริ่มมีปัญหา จากนั้นแสนศักดิ์ได้ไปชกนอกรอบที่ประเทศฟิลิปปินส์ก็แพ้นักมวยเจ้าถิ่นอีก

 

 

 

และอีก 3 เดือนต่อมา ก็บินไปชกที่สหรัฐอเมริกากับ โธมัส เฮิร์นส์ ซึ่งเป็นดาวรุ่งในขณะนั้น ซึ่งแสนศักดิ์ไม่อาจสู้อะไรเฮิร์นส์ได้เลย เป็นฝ่ายแพ้น็อกไปในยกที่ 3 แสนศักดิ์ชกมวยครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2524 ที่จังหวัดร้อยเอ็ด โดยเป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันเอง โดยเป็นการชิงแชมป์ภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก (OPBF) กับนักมวยชาวเกาหลีใต้ แต่ก็แพ้คะแนนขาดลอยอีก จึงต้องแขวนนวมไปในที่สุด..

 

 

-@- ไฟต์ในคลิป..เป็นการพบกันอีกครั้งกับ เปริโก้ เฟอร์นันเดซ อดีตแชมป์โลกของรุ่นนัี้ ที่น้าแสบเรากระชากมา งานนี้จัดขึ้นในถิ้นของผู้ท้าชิง สเปน เรามาดูกันนะคับว่าผลจะเป็นเช่นไร..ปฎิกริยาของแฟนมวยเมืองกระทิงดุ เมื่อเกือบ 30 ปีทีี่แล้ว..

 

 

 

 

@ ขอขอบคุณ ภาพ-ข่าว จาก : www.th.wikipedia.org

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments