<<>> โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ปิดฉากลงไปพร้อมกับความสมหวังและผิดหวังของนักกีฬามากหน้าหลายตาจากทั่วโลก
สำหรับประเทศเล็กๆ ประชากรน้อยๆ นั้น โอกาสที่จะผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขันในแต่ละชนิดกีฬา ถือว่าเป็นไปอย่างยากลำบาก และมักจะได้โควต้าผ่านไวลด์การ์ดจากสหพันธ์กีฬานานาชาติ เพื่อคงไว้ซึ่งสปิริตและเจตนารมณ์ของโอลิมปิกเกมส์ที่ว่า “การเข้าร่วมสำคัญกว่าชัยชนะ” นั่นเอง
ในจำนวนนี้คือ ไมโครนีเซีย ประเทศหมู่เกาะเล็กๆ แถบมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ซึ่งมีประชากรเพียง 1 แสนคนเศษเท่านั้น
“รีโอเกมส์” ครั้งนี้ นักกีฬาไมโครนีเซียได้ไวลด์การ์ดเข้าร่วม 5 คน จาก 3 ชนิดกีฬา แบ่งเป็นว่ายน้ำ 2 คน, กรีฑา 2 คน และมวยสากล 1 คน ซึ่งนักกีฬามวยสากลที่ว่านี้ไม่ใช่นักชกชาย แต่เป็นนักมวยหญิง ชื่อ เจนนิเฟอร์ เชียง ซึ่งได้รับเกียรติให้ถือธงนำขบวนพาเหรดทีมชาติไมโครนีเซียในพิธีเปิดการแข่งขันด้วย
เจนนิเฟอร์เป็นคุณแม่วัย 30 ปี อาศัยอยู่ที่เมืองบรู๊กลิน สหรัฐอเมริกา เป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์ (ฝ่ายแม่) กับไมโครนีเซีย (ฝ่ายพ่อ) จึงทำให้เธอเลือกแข่งขันให้กับประเทศเล็กๆ แห่งนี้ได้
อย่างไรก็ตาม อาชีพหลักของคุณแม่ยังสาวคนนี้ไม่ใช่การชกมวยจริงๆ จังๆ แต่อย่างใด จะพูดให้ถูกคือ อาชีพหาเลี้ยงปากท้องของเธอนั้นออกจะห่างไกลจากการดวลกำปั้นกับคู่ต่อสู้อย่างสิ้นเชิงเลยด้วย!
ในวันปกติ เจนนิเฟอร์คือที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนของ ซิตี้กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทดังของย่านวอลล์สตรีท หนึ่งในเมืองหลวงแห่งการเงินของโลกที่แมนฮัตตัน
เจนนิเฟอร์เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเวลส์ และเริ่มงานด้านการเงินที่ธนาคารนิวยอร์ก เมลลอน ซึ่งระหว่างทำงานก็มีโอกาสได้ไปฝึกมวยที่ยิมดังแห่งหนึ่งของบรู๊กลิน ไปๆ มาๆ เมื่อเริ่มฉายแววโดดเด่น จึงขยันตั้งใจฝึกอย่างจริงจัง
แม้จะย้ายไปทำงานที่พิตต์สเบิร์กในปี 2010 และให้กำเนิดลูกชาย จนกลายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แต่เจนนิเฟอร์ก็พยายามบาลานซ์ชีวิตการงาน ชีวิตครอบครัว และการฝึกซ้อมมวยได้อย่างลงตัว
พอกลับไปนิวยอร์กอีกครั้งในอีก 3 ปีถัดมา จึงเริ่มขึ้นสังเวียนชกมวยสากลระดับประเทศ ก่อนคว้าตำแหน่งรองแชมป์รายการใหญ่มาครองได้ 2 ครั้งในปี 2014 และ 2015 รวมถึงทำเซอร์ไพรส์คว้าเหรียญทองจากมหกรรมกีฬา “แปซิฟิกเกมส์” ปี 2015 ในรุ่นไลต์เวต 60 กก. มาครองในฐานะนักกีฬาทีมชาติไมโครนีเซีย จนได้รับเสียงชื่นชมจาก สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (ไอบ้า)
สำหรับรีโอเกมส์ที่ผ่านมา เจนนิเฟอร์ลงแข่งขันในรุ่นถนัด 60 กก. แต่แค่รอบแรกก็ต้องเจอด่านหินอย่าง มิคาเอล่า เมเยอร์ ตัวความหวังเหรียญของสหรัฐ จึงพ่ายคะแนนไปแบบเอกฉันท์
ช่วงเตรียมตัวและลงแข่งขันโอลิมปิกเกมส์นั้น เจนนิเฟอร์ต้องยื่นใบลาจากบริษัทเป็นการชั่วคราว แต่พอโดนถามว่าตกรอบแล้ว จะกลับไปทำงานเลยหรือไม่ คุณแม่ลูกหนึ่งก็เกิดอาการลังเล ก่อนยอมรับว่า อาจจะกลับไป หรืออาจจะไม่เลยก็ได้ เพราะยิ่งชกมวยก็ยิ่งติดใจ จนอยากจะยึดเป็นอาชีพหลักจริงๆ จังๆ นับจากนี้
ถือเป็นการตัดสินใจที่น่าจะทำให้ใครต่อใครช็อกไปไม่น้อยทีเดียว
@ credit new-image : sportclassic
