<<>> สมาคมเพาะกาย โต้เดือด 3 แชมป์โลก ร่อนจดหมายแจง กกท. ชี้แอบอ้างเป็นนักกีฬาไทย เวทีแข่งเป็นของเอกชน ปูด 2 ใน 3 ถูกไล่พ้นสมาคมเหตุ ไม่ผ่านตรวจโด๊ป-ทำผิดข้อบังคับ ด้านผลา-วิไลวรรณ แจงกลับ ยันเป็นเวทีแข่งจริง เผยอยากลงแข่งเพื่อชื่อเสียงของประเทศแม้สมาคมฯ ไม่หนุนหลัง ลั่นไม่เรียกร้องให้ช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพ นักกีฬาเพาะกายที่ไปสร้างชื่อเสียงถึงต่างประเทศจากการแข่งขันระดับโลกแต่กลับไม่ได้รับการเหลียวแลจากสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เพราะถูกตัดสิทธิ์จากสมาคม แต่ยังมีความทะเยอทะยานออกไปแข่งขันจนสามารถสร้างชื่อเสียงและความแชมป์ระดับโลกมาครองได้สำเร็จ และได้ประกาศก้องบนเวทีว่าเป็นชัยชนะของคนไทย
โดยนักเพาะกายที่ไปสร้างชื่อเสียงในครั้งนี้ได้แก่ นายผลา มีชัย นักเพาะกายทีมชาติไทย คว้าเหรียญทอง การแข่งขันดับเบิ้ลยูเอฟเอ ยูนิเวร์สเมืองออแรนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นเหรียญทองแรกในประเภทมาสเตอร์ชาย ของนักเพาะกายไทย ในการแข่งขันรายการใหญ่ที่สุดของวงการเพาะกายโลก นอกจากนี้ยังมี นายอธิป อนันทวัน ที่คว้าเหรียญทองประเภท สปอร์ตโมเดลชาย และ น.ส.วิไลพร วรรณกลาง ที่ได้เหรียญเงินในประเภทเพอร์ฟอร์มานซ์หญิง ส่งผลให้ทีมไทยได้เหรียญทองในประเภทคะแนนรวมอีกด้วย
ซึ่งนักกีฬาเพาะกายทั้ง 3 ในช่วงประกวดต้องพักด้วยกัน เนื่องจากต้องใช้ทุนของตัวเอง และต้องประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากทางสมาคมประกวด
อย่างไรก็ตามนายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ได้ส่งหนังสือชี้แจงต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยมีหนังสือรับรองจากสหพันธ์กีฬาเพาะกายโลก (WBPF) รับรอง ร่วมยืนยัน แจ้งว่า รายการแข่งขันดังกล่าวจัดขึ้นโดยภาคเอกชน ไม่เกี่ยวข้องภายใต้สหพันธ์กีฬานานาชาติ ที่สมาคมกีฬาเพาะกายฯ เป็นสมาชิก และไม่มีการตรวจสารต้องห้ามก่อนการแข่งขัน ขัดต่อกฎระเบียบของสมาคมและสหพันธ์
นอกจากนั้นนักกีฬาทั้ง 3 คน ไม่เคยแจ้งหรือทำหนังสือขออนุญาตขอเข้าร่วมการแข่งขันรายการดังกล่าวมายังสมาคมกีฬาเพาะกายฯ ได้รับทราบมาก่อนไปแข่งขัน ซึ่ง นายผลา มีชัย เคยเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยแต่ถูกตรวจพบการใช้สารต้องห้ามก่อนการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์โลก พ.ศ. 2558 ขณะนี้กำลังรอการพิจารณาโทษจากงานควบคุมสารต้องห้าม ขณะที่ น.ส.วิไลพร วรรณกลาง อดีตนักกีฬาทีมชาติไทย ได้ทำการละเมิดฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสมาคมทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นนักกีฬาทีมชาติของสมาคมในปี พ.ศ. 2558
จึงถือว่า นายผลา และ น.ส.วิไลพร ใช้ความเป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติสร้างข่าวทางสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้ได้รับข่าวสารเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่่อนกับความเป็นจริง และเกิดความเสียหายต่อ กกท.
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2559 นายผลา กับ น.ส.วิไลวรรณ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “ข่าวเที่ยงรายวัน” โดยนายผลา กล่าวว่า เรื่องที่สมาคมฯ ออกมาให้ข่าวตนจะไม่ขอพูดถึง ส่วนเรื่องที่อยู่ในชั้นศาลจะให้ทนายเป็นคนชี้แจง แต่การกล่าวหาว่าการแข่งขันเวทีใดเวทีหนึ่งเป็นเวทีจริงหรือไม่ตนคิดว่าไม่ถูกต้องสถาบันทั่วโลกหลายสถาบันมารวมเป็นสมาคม ยิ่งใหญ่กว่าสมาคมในประเทศไทยก็มี เพียงแต่การรวมตัวในประเทศไทย ได้จดทะเบียนเป็นสมาคมและลงท้ายแห่งประเทศไทย ส่วนตัวรักและเคารพสมาคมเสมอ เพราะก่อนหน้านี้เคยเป็นทีมชาติมาก่อนเมื่อ 30 ปี ก่อนที่ทุกท่านในสมาคมจะเข้ามาบริหารเสียอีก
ด้านวิไลพร เปิดเผยถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าทำการละเมิดฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสมาคมทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นนักกีฬาทีมชาติของสมาคมฯ ในปี พ.ศ. 2558 ว่า ตัวเองได้ขอหนังสือรับรองจากสมาคมตั้งแต่ปีที่แล้ว และมีหลักฐานจากทั้งเอกสารที่ส่งทางไปรษณีย์และทางอีเมล แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจากทางสมาคมฯ ขอให้ทางสมาคมฯ ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ด้วย ในเมื่อออกมากล่าวหาตนและเพื่อนที่ไปแข่งขันอย่างไม่มีที่มาที่ไป ทั้งนี้ไม่ได้ออกมาเรียกร้องให้สมาคมฯ ออกมาแสดงความช่วยเหลือที่ออกไปแข่งขันยังต่างประเทศ แต่ออกไปแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ เราถูกตัดสิทธิ์การแข่งขันจากสมาคมฯ จึงตั้งองค์กรของเราเอง ซึ่งเป็นองค์กรอิสระเอกชน ได้ไปแข่งระดับนานาชาติเวที Mr.&Mrs. Universe
@ credit new-image- : hilight.kapook.com /ภาพจาก เฟซบุ๊ก เงิบสินะคนไทย
