<<>> ผึ้งหลวง ส.สิงห์อยู่ : แชมป์โลกองค์กรมวยโลก (WBO) รุ่นแบนตั้มเวต

 
(ชื่อเล่น: บอมบ์) เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2531 ที่จังหวัดอุทัยธานี จบการศึกษาจากโรงเรียนวัดดอนตูม ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เคยขึ้นชกมวยไทยมาก่อน แล้วจึงหันมาชกมวยสากลอาชีพภายใต้การจัดการของ ปริยากร รัตนสุบรรณ เมื่อ พ.ศ. 2547 และได้ครองแชมป์โลกเยาวชนรุ่นแบนตั้มเวท ของ WBC เมื่อ พ.ศ. 2549

 

 

ต่อมาในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ผึ้งหลวงได้ขึ้นชิงแชมป์โลกที่ว่างของ WBO รุ่นแบนตั้มเวท กับ “เอเจ บานัล” นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ถึงประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นถิ่นของ “บานัล” ผลปรากฏว่า “ผึ้งหลวง” สามารถเอาชนะทีเคโอได้ในยกที่ 9 นับเป็นนักมวยชาวไทยคนแรกที่ได้แชมป์โลกจากประเทศฟิลิปปินส์

 

 


129-e1429840759277

 


ต่อมาในวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2556 “ผึ้งหลวง” ป้องกันตำแหน่งครั้งแรกกับ “พอลลัส อัมบุนด้า” นักมวยชาวนามิเบีย ถึงประเทศนามิเบีปรากฏว่า “ผึ้งหลวง” เป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปทำให้เสียตำแหน่งไปในการป้องกันตำแหน่งครั้งแรก ซึ่งในมุมมองของทางฝั่ง “ผึ้งหลวง” เห็นว่าเป็นฝ่ายถูกปล้นชัยชนะ โดยเฉพาะในยกสุดท้ายที่ “อัมบุนด้า” ถูกหมัดของ “ผึ้งหลวง” จนออกอาการเกือบจะล้มแต่ก็โผเข้ามากอดถ่วงเวลา จนเอาตัวรอดไปได้ แต่กรรมการบนเวทีก็ไม่ได้สั่งห้าม

 

 

ในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 “ผึ้งหลวง” ได้มีโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้ง ในฐานะที่เป็นรองแชมป์โลกอันดับ 1 ในรุ่นและสถาบันเดิมกับ “โตโมกิ คาเมดะ” นักมวยชาวญี่ปุ่น ที่ประเทศเม็กซิโก ซึ่ง “โตโมกิ คาเมดะ” ยังไม่เคยมีสถิติแพ้หรือเสมอมาก่อนด้วยแต่ต่อมาได้เปลี่ยนมาชกที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา แทน และเปลี่ยนวันที่เป็น 13 กรกฎาคม ปีเดียวกันผลการชกปรากฏว่า “ผึ้งหลวง” เป็นฝ่ายแพ้ทีเคโอไปในยกที่ 7 ด้วยการถูกหมัดชกถูกลำตัวอย่างจัง

 

 

และต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558 “ผึ้งหลวง” ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้ง กับ “เรียว อกาโฮ” นักมวยชาวญี่ปุ่น ที่จังหวัดราชบุรี เนื่องจาก “คาเมดะ” สละแชมป์โลก ปรากฏว่า “ผึ้งหลวง” กลับมาเป็นแชมป์โลกได้อีกครั้ง เมื่อเอาชนะน็อก “อกาโฮ” ได้เพียงแค่ยกที่ 2 เท่านั้นอย่างสุดเฉียบจนสามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกเส้นเดิมได้อีกครั้งเป็นสมัยที่ 2

 

 

อำนาจ รื่นเริง : แชมป์โลกสหพันธ์มวยนานาชาติ(IBF) รุ่นฟลายเวต

 


(ชื่อเล่น: เพชร) เกิดวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2522 ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นอดีตนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย และอดีตนักมวยไทยระดับแชมป์เวทีลุมพินี “อำนาจ” ในวัยเด็กไม่มีโอกาสได้รับการศึกษาเพราะไม่มีหลักฐานรับรองการเกิดว่าเป็นคนไทยจนกระทั่งอายุ 16 ปีจึงได้สัญชาติไทย (บางข้อมูลระบุว่าอำนาจเกิดจริงเมื่อ พ.ศ. 2520) “อำนาจ” เป็นเด็กกำพร้าไม่มีทั้งพ่อและแม่ จึงถูกเลี้ยงดูมาโดยผู้เป็นยาย เริ่มต้นชกมวยไทยตั้งแต่อายุได้เพียง 7 ขวบ

 

 

ก่อนจะย้ายไปหลายค่ายสุดท้ายซ้อมที่ค่าย ป.บูรพา โดยใช้ชื่อว่า “เพชร ต.บางแสน” หรือ “เพชร ป.บูรพา” โดยประสบความสำเร็จได้แชมป์รุ่นฟลายเวท เวทีลุมพินี จากการเอาชนะ แดนสยาม เกียรติรุ่งโรจน์ และป้องกันตำแหน่งไว้ได้หนึ่งครั้ง ก่อนจะเสียแชมป์ในการป้องกันตำแหน่งครั้งต่อมา

 

 

โอลิมปิก 2008 ก่อนการแข่งขัน “อำนาจ” ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารไทม์ว่าเป็น 1 ใน 100 นักกีฬาที่น่าจับตามองในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ในรอบแรก “อำนาจ” เอาชนะ “แจ็ค วิลลี่” นักมวยปาปัวนิวกินีไปได้ 14-2 หมัด ในรอบสองเอาชนะ เนสตัน มอนเตโร่ จากโดมินิกัน ขาดลอย 7-3 หมัด แต่ในรอบชิงเหรียญทองแดง “อำนาจ” เป็นฝ่ายแพ้ให้กับ

 

 

808029

 

 

 

“เซอร์ดัมบา ปูเรฟดอร์จ” นักมวยมองโกเลีย (ต่อมาได้ชิงเหรียญทองแต่แพ้ให้กับ โจว ซื่อหมิง) ไป 3-5 หมัด ซึ่งการชกครั้งนี้ได้รับการวิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า “อำนาจ” ชกแล้วคะแนนไม่ขึ้น พร้อมทั้งมีการตั้งข้อกังขาเรื่องการให้คะแนนของกรรมการด้วย

 

 

ในวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 “อำนาจ” เทิร์นโปรขึ้นชกมวยสากลอาชีพครั้งแรกด้วยวัย 35 ปี ในสังกัดเกียรติกรีรินทร์โปรโมชั่น โดยขึ้นชกกับ “ริโน่ ยูครู” นักมวยอินโดนีเซียผลปรากฏว่า “อำนาจ” สามารถเอาชนะน็อกได้ในยก 4 ต่อจากนั้น ทำสถิติชกชนะรวดต่อเนื่องจนได้ชิงแชมป์ IBF Asia รุ่นฟลายเวทที่ว่างกับ “ไมเคิล โรดริเกวซ” นักมวยชาวฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ปรากฏว่า “อำนาจ” ชนะคะแนน ได้แชมป์ IBF Asia ในรุ่นฟลายเวทไปครอง ต่อจากนั้นก็ป้องกันแชมป์ไว้ได้ 3 ครั้ง

 

 

ต่อมาในต้นปี พ.ศ. 2557 ได้แชมป์โลกในรุ่นฟลายเวท ของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) ด้วยการชิงแชมป์ว่าง เอาชนะคะแนน “ร็อคกี้ ฟูเอนเตส” นักมวยชาวฟิลิปปินส์ ไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งหลังการชกครั้งนี้อำนาจได้รับการยกย่องจากที่ประชุม IBF ที่แอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ให้เป็นนักมวยยอดเยี่ยมของทวีปเอเชียด้วย ต่อมา”อำนาจ”มีความต้องการจะพบกับ “โจว ซื่อหมิง” ซึ่งเป็นคู่ปรับเก่าที่ได้หันมาชกมวยสากลอาชีพเช่นเดียวกันหลังจบโอลิมปิก 2012

 

 

ก่อนที่จะแขวนนวมไปในที่สุด ซึ่ง “อำนาจ” เคยชนะ “โจว ซื่อหมิง” ได้ 1 ครั้ง และแพ้ไป 2 ครั้ง โดยทั้งคู่มีกำหนดชกกันที่โคไทอารีนา ภายในเดอะเวเนเชี่ยนมาเก๊า เขตปกครองพิเศษมาเก๊า ในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2558 โดยถือเป็นรายการใหญ่ที่จัดโดย “บ๊อบ อารัม” โปรโมเตอร์ระดับโลกชาวอเมริกัน ในชื่อรายการว่า “โชว์ดาวน์แอตแซนด์” (Showdown at Sands) ผลปรากฏว่า “อำนาจ” เป็นฝ่ายดักชก และสามารถเอาชนะคะแนนไปได้อย่างขาดลอยด้วยคะแนน 116-111 ของกรรมการทั้ง 3 เสียง

 

 

แม้จะเป็นฝ่ายโดนนับ 8 ในยกที่ 2 จากจังหวะที่ทั้งคู่กอดรัดกันก็ตาม อีกทั้งระหว่างช่วงพักยกให้น้ำ “อำนาจ” ยังเป็นฝ่ายยืนอีกด้วย โดยไม่ขอนั่งเหมือนกับการชกกับ “คาซูโตะ อิโอกะ” ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนมาป้องกันไฟต์บังคับในไฟต์ล่าสุดกับ “จอนห์ รีล คาซิเมโร่” รองแชมป์โลกอันดับ 1 ชาวฟิลิปปินส์ ผลปรากฏว่า “อำนาจ” ชนะคะแนนได้อย่างขาดลอย

 

 

hqdefault

วันเฮง มีนะโยธิน :แชมป์โลกของสภามวยโลก (WBC) รุ่นมินิมั่มเวต

 

 

(ชื่อเล่น: น้อย) เกิดเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2528 ที่ตำบลหนองจิก อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม “วันเฮง” ก่อนจะมาชกมวยสากลอาชีพนั้น ผ่านการชกมวยไทยมาก่อน จัดเป็นนักมวยหมัดหนัก สามารถชนะน็อกคู่ต่อสู้ได้ทั้งที่ตกเป็นรองอย่างมาก เคยได้แชมป์ของเวทีลุมพินี และมวยไทยมาราธอน วีโก้ สมาร์ท สนามที่ 3 ในรุ่นไลท์ฟลายเวท (108 ปอนด์) มาก่อน จึงได้รับการสนับสนุนให้มาชกมวยสากลอาชีพ

 

 


“วันเฮง” รอโอกาสนานกว่า 7 ปี ในการชิงแชมป์โลกมาอย่างยาวนานเพราะในรุ่นนี้เปลี่ยนเอวกันค่อนข้างบ่อย และแชมป์โลกแต่ละคนในสมัยนั้นๆ ก็ค่อนข้างเกรงขาม “วันเฮง” พยายามเลี่ยงไม่เรียกไปชกด้วยหลายๆ เหตุผล จึงไม่นิ่งกับการติดต่อประสานงานขอท้าชิง และแล้วโอกาสนั้นก็มาถึงได้แชมป์โลก

มาจากการเอาชนะทีเคโอ (ยอมแพ้ไม่ออกจากมุม) ในต้นยกที่ 10 “ออสวัลโด โนโวอา” เจ้าของตำแหน่งชาวเม็กซิกัน ในการชกภาคบังคับ ซึ่ง “วันเฮง” เป็นรองแชมป์โลกอันดับ 1 ที่เวทีมวยชั่วคราว หน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทงในปีนั้น

 

@ credit  new-image- clip : The Champion – Thailand/www.youtube.com/news.voicetv.co.th

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments