<<>> ในยุคหนึ่ง ชื่อของ จอร์จ โฟร์แมน คือความน่าเกรงขามของวงการมวยโลก กับดีกรีเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปี 1968 ที่เม็กซิโก ซิตี้ และอดีตแชมป์มวยโลกรุ่นเฮฟวี่เวต 2 สมัย แต่ทุกวันนี้ชื่อของ “บิ๊กจอร์จ” วัย 67 ปี ก็ยังเป็นตัวอย่างชั้นดีสำหรับผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตเสมอ

 

โฟร์แมนมีสถิติการชกสวยหรู ชนะ 76 ครั้ง (ชนะน็อก 68 ครั้ง) แพ้ 5 ครั้ง ผ่านการแขวนนวมกับความพยายามคัมแบ๊กมา 2 ครั้ง ก่อนจะตัดสินใจอำลาเวทีผ้าใบอย่างเป็นทางการในปี 1999

 

1412312829-ForemanKOs-o

 

@ credit  image : pantip.com

 

ราวปี 1994 บิ๊กจอร์จในวัย 45 ปี สามารถทวงคืนเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นยักษ์ของ สมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) และสหพันธ์มวยนานาชาติ (ไอบีเอฟ) ที่เขาเคยเสียให้กับตำนานหมัด มูฮัมหมัด อาลี 20 ปีก่อนหน้านั้น ด้วยการชนะน็อกไมเคิล มูเรอร์ แชมป์โลก ณ เวลานั้น ได้สำเร็จ

 

โฟร์แมนซึ่งทำสถิติเป็นแชมป์โลกอายุมากที่สุดประกาศว่า ความสำเร็จของเขามาจากการทานอาหารที่มีคุณภาพ ถูกหลักโภชนาการ ซึ่งไปถูกอกถูกใจบริษัท รัสเซลล์ ฮ็อบส์ ผู้ผลิตเครื่องครัวและของใช้ภายในบ้านที่กำลังมองหาโฆษกหรือแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้เตาย่างลดไขมัน ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทพอดี การเซ็นสัญญาแห่งปีจึงเกิดขึ้น!

 

รัสเซลล์ ฮ็อบส์ จับโฟร์แมนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เจ้าเครื่องย่างอิเล็กทรอนิคส์ดังกล่าว ซึ่งตั้งชื่อว่ารุ่น “จอร์จ โฟร์แมน กริล” ถือเป็นการจับคู่ที่เหมาะเจาะพอดีมากๆ เนื่องจากปกติบิ๊กจอร์จก็นิยมทานเบอร์เกอร์ก่อนขึ้นสังเวียนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึง “อิน” กับสิ่งที่เขาขายจากใจ และทำให้แฟนๆ รู้สึกเข้าถึงตามไปด้วย

 

 

18

 

ปรากฏว่า เตาย่างรุ่นนี้ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนถึงปัจจุบันสามารถขายได้กว่า 100 ล้านเครื่อง โดยโฟร์แมนจะได้ส่วนแบ่งจากการขายแต่ละชิ้น 40 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงพีคๆ จะทำรายได้เข้ากระเป๋าเขาถึง 4.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (157.5 ล้านบาท) ต่อเดือนเลยทีเดียว

 

กระทั่งปี 1999 เมื่อบริษัท ซัลทอน เข้ามาซื้อกิจการของรัสเซลล์ ฮ็อบส์ โฟร์แมนก็ได้ค่าลิขสิทธิ์จากการขายชื่อแบรนด์สินค้ารุ่นนี้ให้กับซัลทอนเป็นเงินเกือบๆ 138 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (4,830 ล้านบาท) เท่ากับว่าเฉพาะเจ้าเครื่องปิ้งย่างซีรีส์นี้ ก็ทำเงินให้เขามากกว่าการชกมวยมาตลอดชีวิตแล้ว!

 

บิ๊กจอร์จบอกด้วยว่า ลาภก้อนโตนี้มาถึงมือเขาแบบ “ส้มหล่น” มากๆ เนื่องจากแรกเริ่มเดิมที ทางรัสเซลล์ ฮ็อบส์ ตั้งใจจะทาบทาม ฮัลก์ โฮแกน นักมวยปล้ำชื่อดังมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ แต่ติดต่อเอเยนต์ของโฮแกนไม่ได้ บริษัทเลยเบนเข็มมายังเป้าหมายที่ 2 อย่างโฟร์แมนแทน

 

ที่น่าชื่นชมคือ โฟร์แมนรู้จักนำความสำเร็จที่ได้มาแบบจับผลัดจับผลูมาต่อยอด โดยอาศัยการเรียนรู้ด้านธุรกิจ นำเงินก้อนที่ได้มาลงทุนผลิตสินค้าด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อมหลากหลายอย่าง รวมทั้งเปิดแฟรนไชส์ภัตตาคารในสหรัฐ กลายเป็นมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (8,750 ล้านบาท) และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในอดีตนักกีฬาที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจ และประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว

 

O150422H0M5T

 

                     @ credit  image : www.siamsport.co.th

 

โฟร์แมนเคยเขียนหนังสือเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังการเป็นนักมวยและนักธุรกิจในชื่อ น็อกเอาต์ ออนเทรอเพรอเนอร์ วางแผงเมื่อปี 2009 โดยแนะว่า ไม่ว่าจะบนสังเวียนผ้าใบหรือในโลกธุรกิจ สิ่งที่ต้องมีเหมือนๆ กันคือความกล้าที่จะเสี่ยง เมื่อเสี่ยงแล้วก็ต้องทำเป้าหมายให้สำเร็จลุล่วง หากพลาดพลั้งก็ต้องพยายามใหม่จนกว่าจะก้าวข้ามอุปสรรคตรงหน้าได้ ไม่ใช่หยุดแล้วถอดใจเพราะคิดว่าคงทำไม่ได้ไปดื้อๆ

 

นั่นคือหลักปฏิบัติที่เขายึดถือมาทั้งชีวิต จนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่อย่างในทุกวันนี้.

 

@ credit  new-image  : sportclassic

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments