<<>> เมืองฉวนโจว ในจังหวัดฟูเจี๋ยน เป็นเมืองท่าเรือ ที่สำคัญมากเมืองหนึ่ง ตั้งอยู่ทางฝั่งทะเลตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งขั้นระหว่างเฉินโจวกับเกาะใต้หวัน การเดินทางจากบ้านเราก็ประมาณ 3 ชั่วโมงโดยสายการบิน ชานตง พาผมไปลงที่ท่าอากาศยานเซี๊ยะเหมิน ต่อรถไปอีก สองชั่วโมง ตอนแรกผมก็นึกว่า ฉวนโจวคงเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ แต่ที่ไหนได้ เมืองฉวนโจวเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรม เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีบันทึกอย่างยาวนานอีกเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจัดวางผังเมืองแนวใหม่
ซึ่งไว้รองรับกับการขยายตัวอีก ยีสิบปีก็ดูว่าจะยังรับไหว ตึกระฟ้าผุดขึ้นมาทั้งในเมืองและนอกเมือง ดูแทบไม่ออกว่าเป็นเมืองท่าเรือ ที่เราคิดว่าจะได้เห็นแต่เรือขนสินค้า หรือเครนขนสินค้า ตามถนนหนทางจะมีร้านที่ทำงานศิลปะที่ทำจากหินศิลา แบบเดียวกับที่เรามีแถวอ่างศิลาบ้านเรา แต่จะต่างกันก็เพียงที่ ฉวนโจว มีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ หรือจำนวนร้านค้า ถ้าจะลองจินตนาการดู สะพานหินที่เราเห็นในภาพสารคดี หรือในภาพยนตร์ของจีน ที่ปูด้วยหินศิลา แล้วเสาที่จะมีรูปแกะสลักของสิงห์อยู่บนเสา
ก็ทำด้วยกันที่นี่แหละครับ แล้วก็ส่งไปประกอบขึ้นมา ดูเหมือนจะเป็นสินค้าส่งออกเสียด้วยซ้ำไป นี่ถ้าให้เดานะครับหินแกะสลักตามวัดวาอารามในบ้านเราสมัยที่เราเอาช่างจีนมาช่วยสร้างยุครัตนโกสินตอนต้น ก็น่าจะมาจาก เมืองฉวนโจวเหมือนกัน คงเอาลงเรือสำเภาแล่นมาบ้านเราเป็นแน่
แนะนำเมืองกันแล้ว ก็มาแนะนำรายการมวยที่ได้รับมอบหมายจากท่าน พล ต อ โกวิท ภักดีภูมิ ประธานสภามวยโลก มวยไทยให้ไปทำหน้าที่ควบคุมการจัดการแข่งขันของมวยคู่เอก ระหว่าง ลู่ ด๋องเฉี๋ยง และ ซัลมานอฟ รุสลาน รัสเซีย เนื่องจากเป็นการเสนอขอจัดชิงแชมป์ว่างของ รุ่น ซุปเปอร์ไลท์เวท ในประเภท อินเตอร์ ชาเลงจ์ ลู่ ด๋องเฉี๋ยง ดูจะเป็นนักชกที่มีแฟนคลับและกองเชียร์เยอะเอาเรื่อง คงไม่ใช่เพราะเป็นนักมวยเจ้าบ้าน แต่เป็นนักมวยที่มีหน้าตาหล่อเหลา
และก็มีลีลาการชกแบบบู๊ล้างผลาญจึงเป็นทีชื่นชอบของแฟน ๆ อีกทั้งในรายการดังกล่าว ก็มวยนักมวยแม่เหล็กจากบ้านเรา อย่าง สุดสาคร ส กลิ่นมี และ สิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ แค่ส่งคนนี้ก็เป็นมวยแม่เหล็กที่มีลีลาที่ทางทีมงานมั่นใจว่าคนดูจะไม่ผิดหวังเป็นแน่แท้ โดยให้สุดสาคร ส กลิ่นมีประกบกับมวยฝรั่ง ดิมิทรี ศิษย์สมาน และสิงห์มณี แก้วสัมฤทธิ์ ประกบคู่กับนักมวยจีนเจ้าบ้าน ซ่าง ชูนหยู่ เนื่องจากทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันยังไม่ค่อยจะคุ้นเคยกับกฎกติกาของมวยไทยเท่าไรนัก กรรมการเจ้าบ้านก็จะรู้แต่กฎของ เควัน หรือคิ๊คบ๊อกซิ่งเป็นที่ตั้ง เลยทำให้การโชว์แม่ไม้มวยไทย
อาจจะขาดรสชาติไปบ้าง แต่ก็สร้างเสียงฮือฮาก็ได้มากพอสมควร ทางโปรโมเตอร์เองก็ได้รับความร่วมมือจากครูมวยไทย ที่ไปทำงานอยู่ในจีน ช่วยเป็นคนแนะนำ และประสานเรื่องการจัดการแข่งขันพร้อมการประกบคู่มวย ซึ่งก็ได้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะคู่เอง ลู่ ด๋องเฉียง ชนะคะแนน ซัลมานอฟ รุสลาน แบบมวยสนุก เพราะซัลมานอฟก็เป็นมวยหมัดที่ทำเอา ลู่ ด๋องเฉียงชงักไปได้หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่มีพิษสงพอที่จะเอามวยเจ้าบ้านลงไปนับได้
เนื่องจากสถานที่จัดการแข่งขันนั้นเป็นการถ่ายทอดสดออกทีวี แล้วก็ดัดแปลงเอาห้องส่งเป็นเวทีมวยขนาดย่อม จุคนดูได้ประมาณ 500 คน ซึ่งทุกคนก็สนุก กับภาพบนจอ แอลอีดี ขนาดใหญ่บนเวที และการแสดงก่อนเปิดการแข่งขันทุกอย่างทำได้ครบถ้วนกระบวนความ ก็ได้แต่หวังว่าการจัดมวยครั้งนี้ จะเป็นการปลุกประกายให้มีการจัดการแข่งขันอีกในระยะเวลาอันใกล้
เพราะดูจากผลตอบรับหลังจากที่มวยสิ้นสุดลงก็ได้รับการแสดงความยินดีจากคนดูและผู้จัดทุกฝ่ายด้วยดี แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้ว นักมวยจีนที่มาร่วมรายการคงต้องฝึกฝนและสร้างความคุ้นเคยกับวีธีสู้แบบมวยไทยต้นตำรับ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะออกไปท้านักชกนอกบ้าน เพื่อก้าวสู่บันลังค์โลกต่อไป
@ สรุปผลการแข่งขัน..
@ credit new-image- clip : asianboxingcouncil.com /kiate G Sirigul