-@@- ขณะที่ “ไมค์ ภิรมย์พร” ยังเป็นนักร้องเสียงดีที่โด่งดังจากบทเพลง”ยาใจคนจน” แต่สำหรับนักมวยน่าตาดี มีความละม้ายคล้ายกันคือ “ไมค์ เกษตรพัฒนา” ผู้มีชะตาอับจนมาตลอด กำลังจะเริ่มแจ้งเกิดอีกครั้ง บางทีอาจจะขึ้นอยู่กับการชกครั้งสำคัญในไฟต์นี้..!!

 

140212I9M13550

     

  “ไมค์” ผู้เป็นนักชกปัจจุบันอายุ 30 ปี เกิดเมื่อ 22 สิงหาคม 2528 เป็นคนอำเภอลำดวน จ.สุรินทร์ ชกมวยไทยมา 60 กว่าครั้ง แพ้บ้างชนะบ้างเป็นเรื่องประสบการณ์ชีวิต ก่อนจะเข้าเมืองกรุง สวมรองเท้าชกมวยสากลอาชีพ แล้วถูก “ทาเคชิ” (เจ้ายุ่นหัวล้าน) นักข่าว-นายหน้าค้ามวยชาวซามูไร ติดต่อผ่าน “อั้งม้อ”ชูเจริญ อร่ามวงศ์ โปรโมเตอร์ใหญ่ พาไปต่อยที่ญี่ปุ่น ใช้ชื่อ”ฉัตรทอง เกียรติ ทบ.อุบล” อันเป็นชื่อชกมวยไทยมาแต่เดิม ขึ้นล่องท่องแดนอาทิตย์อุทัยเป็นว่าเล่นถึง 6 ครั้งช่วงแรกไม่เคยพานพบกับชัยชนะ ตามสไตล์มวยบันไดให้ดาราเขาไต่เล่น…

 

         กระทั่งได้ทัวร์แดนซามูไรเป็นไฟต์ที่ 7 ได้รับการติดต่อให้ไปชกกับ “คาซึโยชิ นิกิ” มวยสร้างเจ้าถิ่นที่เพิ่งต่อย “ซาไก จ๊อกกี้ยิม” นักมวยไทยจนเลือดคั่งสมองตาย ทีมงานหวังจะปั้นกันยกใหญ่ ปี 2010 จึงติดต่อดึง “ฉัตรทอง” รายนี้นี่แหละ หวังจะให้มานอนสร้างชื่อให้นิกิ แต่ปรากฏดวงคนจะดังกลับฝั่งกันคนละมุม นักชกไทยเผาเครื่องถลุงนิกิถึงพ่าย TKO ยก 7 จบเห่เลิกสร้างกันไปในที่สุด

 

                   ตัวของฉัตรทอง ต่อมาเข้ามาอยู่ในโปรโมชั่นของ “ดร.จิมมี่” เอกรัฐ ไชยโชติช่วง เปลี่ยนชื่อและสีเสื้อ กลายมาเป็น “ไมค์ เกษตรพัฒนา” ในปัจจุบัน ไต่เต้าผลักดันจนไม่แพ้ใครอีก กระทั่งปี 2012 ได้เดินทางไปกับ “สอดสร้อย” (ช่วงลาพักร้อน) ตะลอนไปชกที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง พบกับ “ไดกิ คาเมดะ”น้องสองตระกูลจอมซ่าส์ ผู้เคยประหมัดผลัดกันเป็นแชมป์โลกกับ เด่น”เก้าแสน กระทิงแดงยิม” มาแล้ว

 

       การชกครั้งนั้น มีขึ้นที่ “คากาว่า” ถิ่นชานเมืองย่านชนบท เดินทางโดยรถบัสข้ามภูเขาลัดเลาะเลียบท้องนา ยกสองไมค์พลาดท่าถูกเหวี่ยงล้มและโดนหมัดตามน้ำ จึงโดนนับแปดตามกฏ แต่ลุกขึ้นมาไมค์ก็ทรหดแลกหมัดกันอย่างดุเดือด ครบ 10 ยกไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ที่จะให้นักชกไทย เอ๊ยเจ้าถิ่น ชนะคะแนนตามฟอร์ม (เราแพ้แบบไม่น่าเกลียด) การชกครั้งนั้น ถูกนายหน้า”ตอน”ตัดค่าตัวเอาเปรียบอย่างน่าเกลียด แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์…

 

32479           

            เมื่อกลับมา “ดร.จิมมี่” ยังคงสนับสนุนต่อไป 9 ครั้งไม่เคยแพ้ใคร แถมยังได้แชมป์ IBF Asia รุ่นซูเปอร์แบนตั้มเป็นประกาศนียบัตร ไต่เต้าจนล่าสุดได้สิทธิ์ ขึ้นตัดเชือกจูเนียร์ เฟเธอร์เวต ของสถาบันใหญ่ IBF พบกับ “ชินโกะ วาเกะ” รองแชมป์โลกซามูไร ที่โครักกูเอ็น ฮอลล์ กลางมหานครโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันพุธที่ 10 มิถุนายน ศกนี้ ที่น่าโชคดี คือมีการสนับสนุนถ่ายทอดสดกลับเมืองไทย จากดิจิตอลทีวีใจใหญ่ “MONO 29” ตั้งแต่เวลา 18.30 น.เป็นต้นไป

 

            ฟังเจ้าตัว ออดอ้อนไม่น้อยกว่าพระเอกละครว่า “ดูเทปการชกของวาเกะแล้วหลายไฟต์ เค้าทั้งสูงทั้งยาว แต่การ์ดไม่ดี ตัวผมเองถ้าจะทำให้ดี ก็ต้องเข้าให้ถึง เพราะถ้าเข้าไม่ถึง ผมก็คงตายอย่างเดียว..แฮะ แฮะ” (ยังมีหน้าหัวเราะอีกแนะ)

“การชกครั้งนี้ ถึงจะไม่ได้ชิงแชมป์แต่มีการถ่ายทอดสด ตัวผมหน่ะ ไม่กดดันหรอกครับ ยังสะบายๆ แบบสไตล์เบิร์ดๆ คิดว่า แพ้ชนะ เป็นเรื่องของเกมกีฬา แต่ผมก็อยากชนะนะ จริงๆแล้วผมเครียดครับ ลึกๆก็คิดเหมือนกันว่าจะแก้เกมเอาชนะเขายังไง..??”

 
            “ทุกวันนี้ เช้าๆออกวิ่ง เจอหมาข้างถนน ผมวิ่งไล่กวดหมด ไม่เคยกลัว ไม่หงุดหงิดเหมือนพี่คนตัวลาย (เฉลิมพล สิงห์วังชา ออกวิ่งตอนซ้อมแล้วโดนหมาไล่งับขา) เดี๋ยวนี้ วิ่งๆออกกำลัง ก็ไม่เคยโดนรถจักรยานชนจนตกข้างทางเหมือนแต่ก่อนแล้ว แสดงว่า

 

          ดวงกำลังดีขึ้น เห็นทีจะมือขึ้น ผมมีเป้าหมายอยากทำเพื่อลูก (ลูกชายอายุขวบครึ่ง) ลูกกำลังจ้ำม่ำ เพราะตอนนี้กำลังไส้แห้ง(อดข้าวอดน้ำ ทำน้ำหนัก) อยากให้พี่น้องชาวไทยเป็นกำลังใจให้ผมด้วย ชกออกทีวีถ่ายทอดสดข้ามประเทศทั้งที ดูกันทางช่องโมโนนะครับ อย่าเพิ่งไปเปิดเวิร์คพอยท์ เพราะที่นั่นจะเจอแต่ปัญญา กับ โหน่ง เท่ง แน่ๆ” (แนะ มีติดตลก ซะด้วย !!)

 

             “และสุดท้ายนี้ ก็อยากขอร้องวิงวอนไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ คสช. ท่านกรุณาอย่าเพิ่งมาออกทีวี ตอนผมชกเลย ครั้งนี้ถ้าชนะผมคงดัง แต่ถ้าแพ้ ก็อาจต้องปิดฉากชีวิตนักมวย เพราะไม่รู้ผู้จัดเขาจะสนับสนุนต่อไปหรือเปล่า ถึงจะอยากต่อยอยู่ แต่ชีวิตนักมวยก็ต้องอยู่ที่ผู้ใหญ่ ถึงอย่างไรผมจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดครับ ผมฝากแรงเชียร์กันทั้งประเทศด้วย”

 

            หมดนี้คือถ้อยความจากใจของลูกผู้ชายที่ชื่อ…..”ไมค์ เกษตรพัฒนา”

 

47

new-logox2-e1416876872708-2-e1417234758308

 

@ credit  new-image : นินจาดำทีมเกียรติกรีรินทร์ 

 

 

เชิญแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ

comments